บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ ายไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิ งทั่วไป (Conventional Power Generation) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Power Generation) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รายงานผลประกอบการปี 2560 โดยมีกำไรสุทธิรวม 4,155 ล้านบาท สะท้อนการดำเนินงานที่มีประสิ ทธิภาพ ที่สำคัญมาจากโรงไฟฟ้าหงสาที่มี อัตราการจ่ายไฟ (Equivalent Availability Factor: EAF) กว่าร้อยละ 80 ขณะที่กำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน หมุนเวียนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ ว โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้น 88 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) แล้ว และอีก 130 เมกะวัตต์ จากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแ สงอาทิตย์ที่บริษัทฯ ได้สิทธิพัฒนาเพิ่มเติม ตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจผลิตไ ฟฟ้าอย่างมีสมดุลและเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้บริษัทฯ พร้อมสานต่อภารกิจขยายกำลังผลิต ให้ได้มากกว่า 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยแบ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนไม่ น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายในปี 2568 และพร้อมเป็นผู้นำธุรกิจไฟฟ้าใน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เติบโต อย่างยั่งยืน ภายใต้การบริหารของคุณสุธี สุขเรือน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้ าหน้าที่บริหาร บ้านปู เพาเวอร์ฯ เมื่อต้นปี 2561
นายสุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการโดยรวมของบ้านปู เพาเวอร์ฯ ในปี 2560 สะท้อนศักยภาพของบริษัทฯ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่ง ยืนจากการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิ ภาพการผลิต โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีและโร งไฟฟ้าหงสา ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ แม้จะหยุดซ่อมบำรุงตามแผน ในขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานหมุนเวียนคืบหน้ามาถึงครึ่ งทางสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ร้ อยละ 20 ภายในปี 2568 ซึ่งทั้งหมดนี้ คือการเดินตามแผนกลยุทธ์อย่างมั่ นคง ทั้งนี้ด้วยสถานะการเงินที่แข็ง แกร่ง และอัตราหนี้สินต่อทุนที่อยู่ใน ระดับต่ำ บ้านปู เพาเวอร์ฯ จะสามารถขยายโอกาสลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้ างการเติบโตและผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ในปี 2560 บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 6,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16 ประกอบด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในปร ะเทศจีนครบทั้ง 6 แห่งตามแผน จำนวน 659 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลัง งานความร้อนร่วม (Combined Heat and Power Plants: CHP) ได้แก่ โรงไฟฟ้าหลวนหนาน (Luannan) เจิ้งติ้ง (Zhengding) และโจวผิง (Zouping) จำนวน 5,760 ล้านบาท ทั้งนี้ในไตรมาส 4/2560 แม้โรงไฟฟ้าในจีนจะได้รับผลกระท บจากราคาต้นทุนถ่านหินที่ปรับสู งขึ้น แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารความเสี่ยงและ ทำกำไรได้จากยอดขายไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว
บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไร 3,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 5 ประกอบด้วยส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟ ฟ้าหงสาจำนวน 2,235 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินท างบัญชีแล้วจำนวน 908 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 28 ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตและจ่ายก ระแสไฟได้อย่างต่อเนื่องของโรงไ ฟฟ้าหงสา ในขณะที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีรายงา นส่วนแบ่งกำไรจำนวน 1,487 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินท างบัญชีแล้วจำนวน 430 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 38 ทั้งนี้หากไม่นับผลกระทบจากการแ ปลงค่าเงิน ส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนิ นงานจะมีจำนวนรวมถึง 5,060 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากก ารเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและ จ่ายไฟของโรงไฟฟ้าทั้งสอง
ณ ปัจจุบันจนถึงปี 2566 บริษัทฯ มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนร วมทั้งสิ้น 2,789 เมกะวัตต์เทียบเท่า แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินก ารเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 2,068 เมกะวัตต์เทียบเท่า และโครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินก ารเชิงพาณิชย์อีก 721 เมกะวัตต์เทียบเท่า สำหรับโรงไฟฟ้าในไทยและ สปป.ลาว บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างส่วนแบ่ งกำไรที่มีเสถียรภาพด้ วยมาตรฐานอัตราการจ่ายไฟที่ดี ในขณะที่ยังคงจัดการการดำเนินงา นของโรงไฟฟ้า CHP โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวงใ นจีนให้มีประสิทธิภาพและเปิดดำเ นินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผน เช่นเดียวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลั งงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทฯ จะมีกำลังผลิตเพิ่มอีก 52 เมกะวัตต์เทียบเท่า จากส่วนขยายโรงไฟฟ้าหลวนหนานระย ะที่ 2 ในจีน และอีก 44.5 เมกะวัตต์ จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอา ทิตย์ในญี่ปุ่นจำนวน 3 โครงการ
“บ้านปู เพาเวอร์ฯ ยังคงมุ่งสร้างการเติบโต ด้วยการแสวงหาโอกาสลงทุนในโครงก ารโรงไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรู ปแบบในประเทศที่บริษัทฯ มีธุรกิจอยู่ และประเทศที่มีศักยภาพ เช่น เวียดนาม เป็นต้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายขยายกำลังผ ลิตให้ได้มากกว่า 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า พร้อมสัดส่วนพลังงานหมุนเวี ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ทั้งนี้ในปี 2561 เราจะนำจุดเด่นด้านความแข็งแกร่ งของทีมผู้บริหารที่มี ประสบการณ์ในกลุ่มบ้านปูฯ มาอย่างยาวนาน ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ ไฟฟ้า ความแข็งแกร่งทางการเงิน ความสามารถในการจัดหาแหล่งทุน ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธ มิตร และความได้เปรียบจากการมีธุรกิจ กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิกมาผนวกเข้าด้วยกัน โดยมีวัฒนธรรมองค์กรของกลุ่มบ้า นปูฯ ที่มุ่งเน้นค่านิยม 3 ประการ ได้แก่ คิดสร้างสรรค์ ทำด้วยใจรัก และมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จ (Innovative-Passionate-Committ ed) เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อผลตอบแทน ที่ยั่งยืนขององค์กรและผู้มีส่ว นได้เสีย” นายสุธี กล่าวปิดท้าย