เลาะระเบียงขนส่ง 160
นิตยสาร Logistics Timeปีที่ 14 ฉบับที่ 160 ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 : “ตะวันเพลิง” คนหน้าเก่าขาประจำรายงานตัวประจำฐานกองบัญชาการข่าวคอลัมน์“เลาะระเบียงขนส่ง” ทำหน้าที่รายงานข่าวเด่น-ดัง-ร้อนในในแวดวงขนส่ง พลางหยิบแกมหยอกบรรดาพี่น้องสิงห์รถบรรทุกและผู้ประกอบการขนส่งทั่วฟ้าเมืองไทยอีกแล้วครับท่าน
***หลังเปิดม่านปีหมา 2561 มาได้เท่าไหร่เริ่มมีอะไรโผล่หางมาบ้างแล้ว ทั้งแวดวงการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สะท้อนว่าปีหมาปีนี้โคตรดุทะลุดุจริง! นี่ก็โผล่แล้วแต่ไม่ใช้่หางนะจ๊ะ แต่เป็นผลสอบวิชารถใหญ่ปี 2560 ของบรรดาค่ายรถใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ในไทย จากสถิติจำนวนรถใหม่ (ป้ายแดง) ที่จดทะเบียนทั้งประเภทรถบรรทุกและรถโดยสารที่รวบรวมโดยกรมการขนส่งทางบก พบว่าตลาดรถญี่ปุ่นคงไม่ต้องสืบให้เสียเวลา 2 ค่ายมหาอำนาจอย่าง “อีซูซุ”และ “ฮีโน่” ช่วยกันกวาดยอดขายเข้าหน้าตักชนิดม้วนเดียวจบ โดยค่ายอีซูซุยังครองความเป็นเจ้าตลาดอย่างเหนียวแน่นด้วยยอดขาย 14,385 คัน ส่วนค่ายฮีโน่ปิดยอดขายที่ 12,035 คัน ส่วนอันดับสามเป็นของค่ายยูดี 729 คัน และปิดท้ายด้วยค่ายฟูโซ่ 255 คัน
***ฟากตลาดรถใหญ่สายพันธุ์ยุโรป ค่ายยักษ์ใหญ่จากสวีเดนอย่างสแกนเนีย แตะคันเร่งเบียดคู่แข่งเข้าป้ายในฐานะ “เจ้าตลาด”เป็นผลสำเร็จเป็นปีแรกด้วยยอดขาย 609 คัน ส่วนค่ายวอลโว่ ที่เคยยึดหัวหาดเจ้าตลาดมานานกลับหล่นเป็นอันดับสองด้วยยอดขาย 589 คัน ส่วนอันดับสามตกเป็นของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยยอดขาย 116 คัน และค่าย MAN (เอ็ม.เอ.เอ็น.)ด้วยยอดขาย 75 คันตามลำดับ
***หลังได้เห็นเต็ม 2 ลูกกะตาแล้ว ตะวันเพลิง ไม่อยากจะพูดถึง 2 ลูกพี่ใหญ่ทรงอิทธิพลแห่งวงการให้เสียเวลาเสียพื้นที่อันมีน้อยนิด เพราะโดยปกติพี่ใหญ่ทั้ง 2 ค่ายก็ไม่สนใจเสียงหมูหมากาไก่ที่ไหนมันร้อง-เห่าอยู่แล้ว ที่น่าสนใจยิ่งนักคงเป็นค่ายอันดับสามและสี่ โดยค่ายยูดีจัดได้ว่าเครื่องยนต์แรงเหลือเกินกวาดยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีที่แล้วกวาดไปเหนาะๆ 729 คัน พร้อมกอดดันสามไว้อย่างเหนียวแน่น
***ส่วนอันดับสี่ที่แต่ครั้งเก่าก่อนครั้งที่เคยอยู่ในอ้อมอกตันจงยังยึดยึดหัวหาดอันสาม แต่พอเผชิญมรสุมรุมเร้าในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากตังจงสู่อ้อมอกอ้อมใจของเดมเลอร์ที่กระชากหวังลุยถั่วเอง โดยบริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แต่ยอดขายกลับตาลปัตรเข้าสู่อาการ “หน้ามืดตาลาย” คล้ายจะเป็นลมพร้อมกับหวานอมขมกลืน เมื่อปี 2560 เก็บยอดไปไม่ถึง 300 คัน ปล่อยค่ายยูดีแซงปาดหน้าไปอย่างหน้าตาเฉย ภาษาวัยรักวัยรุ่นแถวๆเขตพระโขนงบอกว่า “ผลสอบออกแบบนี้รู้ไหมว่า…เธอสอบตกนะจ๊ะที่รัก?!”
***จึงถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญกับการโม่แป้งการตลาดของบิ๊กบอสใหญ่ “มร.ซาช่า ริคาเน็ค” ในฐานะประธานกรรมการบริหาร MCVT ที่ย้อนเกล็ดให้ทราบดีอย่างลึกซื้อว่าตลาดสิบล้อเมืองไทย…เป็นตลาดปราบเซียน การทำตลาดแบบ “เซียนเหยียบเมฆ”ที่ใช้ได้ดีในอีกซีกโลกหนึ่ง แต่กับตลาดเมืองไทยยังไม่โดนใจเท่าไหร่นัก จึงเป็นโจทย์ยากในการทำตลาดในปี 2561 นี้ ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว ยิ่งตั้งเป้ายอดขายมากถึง 1,000 คันด้วยแล้ว ถือเป็นงานยากยกกำลังสองเลยทีเดียวเชียว แถมในเดือนเมษายนนี้ มร.ชาช่า จะกระโดดข้ามห้วยควบตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เมอร์เซเดส–เบนซ์ (ประเทศไทย)จำกัด อีกตำแหน่งหนึ่ง มีบทบาทขับเคลื่อนทั้ง 2 ยี่ห้อใน 2 ฟีลลิ่งการทำตลาด ไม่รู้งานนี้จะหมู่หรือจ่า…สู้ๆนะครับมร.ชาช่า
***ขณะที่ฟากฝั่งรถใหญ่สายพันธุ์ยุโรป ค่ายสแกนเนีย ภายใต้การนำของมร.สเตฟาน ดอร์สกี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของสแกนเนียก็ว่าได้ หากจะวัดด้วยยอดขายรวมสแกนเนียเบียดคู่แข่งบ้านเดียวกันเข้าป้ายเป็นอันดับหนึ่ง เป็นการไล่บี้เข้าเส้นชัยเป็นครั้งแรกในฐานะ “แชมป์ยอดขายรถใหญ่ยุโรป”หลังจากที่ต้องไล่บี้ไล่เบียดกันสนุกสูสีมาทุกปี พร้อมกับมั่นใจในศักยภาพและความแข่งแกร่งที่มีอยู่ว่าปีนี้สแกนเนียจะสามารถรักษาภาวะผู้นำต่อไปได้
***เมื่อปีที่แล้วกวาดไป 609 คัน เติบโตกว่า 30 % เมื่อเทียบกับยอดขายของปีก่อนหน้านี้ แต่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 790 คัน แบ่งเป็นรถหัวลาก 650 คัน และรถบัสโดยสารอีก 140 คัน หากควบเครื่องยนต์ทะยานพุ่งชนเป้าได้สำเร็จจะเป็นการเติบโตกว่า 34 % ปีนี้ในแง่มุมการตลาดคาดว่าทั้ง 2 ค่ายทั้งสแกนเนียและวอลโว่ จัดอาวุธหนักใส่กันมันหยดติ๋งแน่! สำหรับ ตะวันเพลิง แล้วเรียนตามตรงครับว่า 2 ค่ายมหาอำนาจจากสวีเดนนี้ หากเป็นมวยถือเป็นมวยถูกคู่เลยทีเดียว ต้องจับตาเป็นพิเศษล่ะครับว่าปีนี้ทั้ง 2 ค่ายนี้จะปล่อยหมัดเด็ดอะไรออกมาดวลกัน…มีให้เห็นแน่ๆยิ่งกว่าแช่แป้งซะอีก!
***ขณะที่ค่ายMAN รถบรรทุกพันธุ์แกร่งจากเยอรมัน ภายใต้การนำของ “พ่อเลี้ยงเอ-ธนภัทร อินทวิพันธุ์” กรรมบริหาร บริษัท MAN Commercial Vehicle (Thailand) หรือ MCVTในเครือตันจง แม้ยอดขายปีที่แล้วจะยังไม่ถึงหลัก 100 ตามเป้า แต่ก็แตะอยู่ที่ 75 คันก็เป็นยอดที่ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง ปีนี้ตั้งเป้าพอหอมปากหอมคอที่ 120 คัน แบ่งกันครึ่งๆระหว่างรถหัวลากกับรถโดยสาร โดยจะมีรถหัวลากรุ่นใหม่เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ 280 แรงม้า ราคาที่พ่อแม่พี่น้องสัมผัสได้ที่ 2.2 ล้านบาท ส่วนรถบัสจะมีขนาดเครื่องยนต์ใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่ม คือ ขนาด 2 เพลา เครื่องยนต์ 350 แรงม้า และจะสยายปีกเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการเพิ่มดีลเลอร์จากเดิม 5 แห่งเป็นอีก 4 แห่งนะจ๊ะ….เอ้า!….ใครเชียร์มวยรองจัดหนักจัดเต็มไปเลยครับพี่น้อง!
*** ลาล่ะครับฉบับนี้…เจอกันฉบับหน้า!
Cr.ภาพประกอบจาก www.happycow.net
