วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำนโยบายพัฒนาพนักงานขับรถอย่างต่อเนื่อง ชูธงประหยัดเชื้อเพลิง เพื่อผลประกอบการที่ดีขึ้นของลูกค้า รักษาสิ่งแวดล้อม และขับขี่ปลอดภัย ล่าสุด จัดกิจกรรม Volvo Trucks FuelWatch Competition Thailand Final 2016 ขึ้นที่เชียงใหม่ เพื่อเฟ้นหานักขับขั้นเทพร่วมชิงแชมป์รอบเอเชียแปซิฟิค (APAC FuelWatch Challenge Final Round)ณ ประเทศสวีเดน ปลื้มปีนี้ยอดผู้เข้าร่วมชิงชัยพุ่ง 260 คน (จากปีที่แล้ว 150 คน) เพิ่มขึ้น 73% อีกทั้งยกระดับการแข่งขันด้วยมิติใหม่เป็นปีแรกด้วยการเพิ่มประเภททางวิบาก หรือ Off Road โดยผนึกความร่วมมือกับบริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด ในประเทศสปป. ลาวซึ่งผู้ชนะทั้ง 2 ประเภทจะได้คว้าตั๋วบินลัดฟ้าเข้าร่วมชิงดำระดับเอเชียแปซิฟิคที่สวีเดน 5-8ก.ย.ศกนี้
ปลื้ม ยอดผู้สมัครพุ่ง 73 %
คุณวิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนการขาย บริษัท วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทยได้จัดกิจกรรมการแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน FuelWatch Competition อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ถือเป็นการจัดเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยในปีแรก พ.ศ. 2553 มีผู้สมัครเพียง 56 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 65 คนในปี 2554 ปี 2555 มีผู้สมัคร 73 คน ปี 2556 มีผู้สมัคร 81 คน และปีที่แล้วเป็นปีแห่งการก้าวกระโดดคือมีผู้สมัครมากถึง 150 คน และล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 260 คนในปีนี้ ถือเป็นอัตราเติบโตที่สูงมาก และสะท้อนถึงการยอมรับสนามแข่งขันจากนักขับรถวอลโว่ ทรัคส์ได้เป็นอย่างดี
“การแข่งขันในปีนี้ เราได้ทำการคัดเลือกนักขับมือทองดำเนินการอย่างเข้มข้นตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จากผู้สมัครทั้งหมด 260 คนที่ถูกคัดเลือกตามกติกาจนสามารถคัดนักแข่งได้ 24 คน เพื่อเข้าร่วมชิงชัยรอบสุดท้ายที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทาง เถิน-สบปราบ รวมระยะทางทั้งสิ้น 63 กิโลเมตร ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีและอย่างต่อเนื่องจากตั้งแต่ปีแรกของการจัดแข่งขันได้แก่มิชลินสยาม และไฮ เทรลเลอร์ เอเชีย โดยทุกพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนก็ล้วนมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมด้วยกันทั้งสิ้น”
“ผลการแข่งขันปรากฎว่าผู้คว้ารางวัลชนะเลิศประเภททางราบหรือ On Road ได้แก่นายสำเริง งามมาก พนักงานขับรถจากบริษัท อินเทล โลจิสติกส์ จำกัด รองอันดับ 1 คือนายสุวรรณ สีดำ พนักงานขับรถจากบริษัท อมฤต แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด และรองอันดับ 2 ได้แก่นายคมสัน เทียนเงิน พนักงานขับรถจากบริษัท สวนอู่ทอง จำกัด โดยนายสำเริง งามมาก จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมชิงแชมป์ระดับเอเชียแปซิฟิคที่ประเทศสวีเดน”
ยกระดับมิติใหม่การแข่งขัน “Off Road” นำร่องที่ลาว
นอกจากนี้ คุณวิลาวัลย์ ระบุเพิ่มเติมว่าปีนี้ถือเป็นปีแรกแห่งการเริ่มต้นการจัดแข่งขันประเภททางวิบาก หรือ Off Road จากเดิมมีเพียงประเภททางราบ หรือ On Road เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขันให้ได้มาตรฐานสากล โดยจัดขึ้นที่ฝั่งสปป.ลาว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีโดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากบริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานเหมืองแร่ทองคำและทองแดงจากรัฐบาล สปป. ลาว ในการคัดเลือกพนักงานขับรถ 20 คนจากที่มีอยู่ 300 คน ซึ่งได้ทำการแข่งขันขึ้นในวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา
“ถือเป็นครั้งแรกที่ Hub Thailand ได้จัดแข่งขันประเภทออฟโรด เพื่อให้การจัดแข่งขันสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศสวีเดนที่มีการแข่งขันทั้ง 2 ประเภท ซึ่งการแข่งขันประเภททางวิบากที่ฝั่งสปป.ลาวนั้น เป็นการแข่งขันเสมือนปฏิบัติงานจริงของผู้เข้าร่วมแข่งขัน ทั้งตัวรถวอลโว่รุ่น FMX พิกัดน้ำหนักการบรรทุก เส้นทาง ระยะทาง วงรอบการขนส่ง และความเร็ว ล้วนเป็นกรอบและข้อกำหนดที่นักขับล้วนต้องปฏิบัติจริงทั้งนั้นโดยผลการแข่งขัน นายอามิต จิตทะวง เป็นผู้ชนะเลิศ นายชาน ยาง รองชนะเลิศอันดับ 1 และนายคำไบ หลวงสามารถ รองชนะเลิศอันดับ 2”
อย่างไรก็ดี รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนการขาย วอลโว่ทรัคส์ประเทศไทย ได้ย้ำในตอนท้ายว่า ผู้ชนะเลิศทั้ง 2 ประเภททั้งจากฝั่งไทยและสปป.ลาวก็จะได้เป็นตัวแทน Thailand Hub เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ในรายการ FuelWatch APAC Final 2016 ที่ประเทศสวีเดนในวันที่ 7 – 8 กันยายน และหากตัวแทน Thailand Hub สามารถผ่านการคัดเลือกในรอบนี้ จะได้รับสิทธิ์เขาชิงแชมป์โลกในรายการ FuelWatch Global Challenge ที่ประเทศสวีเดนอีกด้วย”
ภูเบี้ยไมน์นิ่งฯ ย้ำปรัชญาบริษัท-การแข่งขัน “Safety First”
ทางด้าน มร. เจฟ เคอร์นิค (Mr. Geoff Kernick) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด กล่าวถึงการแข่งขันในสปป.ลาวว่าบริษัทฯ ได้ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับการแข่งขัน FuelWatchเป็นอย่างมากเพราะถือเป็นประโยชน์ต่อองค์กรโดยตรงที่จะส่งเสริมให้พนักงานได้มีโอกาสในการพัฒนาทักษะการขับรถ อีกทั้งปรัชญาของการแข่งขันนี้ ยังสอดคล้องกับหลักปรัชญาของบริษัทฯ โดยตรง ซึ่งเราเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ
“บริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือ PanAustจากประเทศออสเตรเลีย โดยธุรกิจหลักของบริษัท คือการขุดสินแร่เพื่อการส่งออกจาก สปป. ลาว ไปยังต่างประเทศ ซึ่งการขนส่งสินแร่ประมาณ 80% ผ่านไปยังประเทศเวียดนาม ส่วนที่เหลือ 20% ผ่านประเทศไทยที่จังหวัดระยองทุกขั้นตอนเราให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยอย่างมากเพราะหากเกิดอุบัติเหตุจนทำให้พนักงานขับรถได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้ส่วนการผลิตจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ก็ตาม การขนส่งวัตถุดิบไปส่งต่อให้กับลูกค้าก็จะต้องหยุดสะดุดลง ย่อมส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ แน่นอน ดังนั้น เราจึงให้พนักงานทุกคนยึดถือความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าผลการดำเนินการดังกล่าว ทำให้เราไม่มีอุบัติเหตุในรอบ 12 เดือน นี่คือการบริหารจัดการที่สัมฤทธิ์ผลที่เราภาคภูมิใจมาก”
ปฏิเสธไม่ว่าบนโลกแห่งธุรกิจขนส่ง ต้นทุนการขนส่งทางถนนนั้น 50 % มาจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้น การประหยัดพลังงานที่เกิดจากการขับขี่อย่างมีวินัย กับความสุดยอดด้านนวัตกรรมยานยนต์อย่างวอลโว่ ทรัคส์ แล้ว เท่ากับการเพิ่มพูนรายได้ที่เกิดจากการประหยัดพลังงานให้แก่ผู้ประกอบการ
และที่สำคัญก็ต้องสำเหนียกถึง “ความปลอดภัย” เพราะการขนถ่ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ล้วนเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ให้บริการ หากคนขับขับขี่อย่างมีวินัยแล้ว จะทำให้การขนส่งสินค้าจากต้นทางไปสู่ปลายทางได้อย่างปลอดภัย เฉกเช่นการจัดการแข่งขัน Fuelwatchของค่ายวอลโว่ภายใต้ปรัชญา “รักษาสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และมีวินัยในการขับขี่”