“การส่งออก” ได้ชื่อว่าเป็น “พระเอก” เพราะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟือนที่สำคัญของการขับเครื่องเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งในยุด 4.0 การส่งออกจำเป็นต้องปรับตัว นำเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่แนวโน้มทางเศรษฐกิจมองชัดเจนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา รัฐบาลมองว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP จะขยายตัวที่ 3.8% และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่าง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ประกาศชัดว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของรัฐบาล
หากแต่ทิศทางเศรษฐกิจผ่านการส่งออกที่กำลังเผชิญกับปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุด แตะระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ดังนั้น ในปี 2561 หรือปีจอ แนวโน้มการส่งออกจะเป็นอย่างไรบ้าง
รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การส่งออกในปี 2561 ยังมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อปีที่แล้วส่งออกขยายตัว 10.3% ส่วนปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 6.3% เปรียบเทียบมูลค่าส่งออกพบว่ามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการขยายตัวชะลอตัวลดลงจากปีที่แล้ว และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 การส่งออกขณะนี้ประสบปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต้องติดตาม บริหารจัดการกันต่อไป ตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ค่าเงินบาทแข็งทำให้การส่งออกลดลง เป็นตรงกันข้าม แม้ค่าเงินบาทแข็งเรายังส่งออกได้อยู่ แต่ค่าเงินบาทก็มีผลต่อการส่งออก
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทมีผลหรือไม่จะต้องเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศอาเซียน เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ส่งออกขยายตัวอยู่ที่ 10.3% ซึ่งความจริงส่งออกจะต้องขยายตัวอยู่ที่ 12.8% เหตุที่ตัวเลขหายไป 2.5% หรือประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท เพราะอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเทียบกับประเทศอาเซียนแล้วแข็งกว่าประมาณ 6% ดังนั้น หมายความว่าค่าเงินประเทศอาเซียนอ่อนกว่าไทย
“ นับจากนี้ต่อไปไทยจะต้องมอนิเตอร์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต้องสอดคล้องกับภูมิภาค ปีที่แล้วส่งออกของประเทศสิงค์โปร มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มูลค่าส่งออกขยายตัวประมาณ 14-15% แสดงให้ว่าค่าเงินอ่อนค่ากว่าไทยเรา”
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า ในปี 2561 นี้และปีต่อๆไป เราน่าจะพูดถึงมาตรฐานสินค้าเกษตรส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ จากสินค้าเกษตรเป็นเกษตรแปรรูปวัตถุต้องมีมาตรฐาน หรือมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ดีคือ GAP (แนวทางปฏิบัติเกษตรที่ดี) หากดูประเทศเมียนมาร์กลายเป็นประเทศที่มีความสามารถทำสินค้าเกษตรได้มาตรฐานสู่ระดับ Organic แต่เรายังอยู่ระดับ GAP ทั้งหมดอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อผลักดันมูลค่าการส่งออกของไทยหลังจากนี้ต่อไป