“พาณิชย์” เฮ! สหรัฐฯ ประกาศรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก (Notorious Markets) ยันไม่มีชื่อย่านการค้าของไทยแม้แต่แห่งเดียว เป็นผลจากการปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มงวด และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.61 สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR) ได้เผยแพร่รายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก ประจำปี 60 ทั้งตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิด และตลาดออนไลน์ โดยในปีนี้ ไม่มีชื่อย่านการค้า/ศูนย์การค้าในไทย เป็นตลาดที่มีการละเมิดสูง (Notorious Markets) แม้แต่แห่งเดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หรือตั้งแต่ปี 50 ที่ไทยถูกสหรัฐฯจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สินทางปัญญา (PWL) ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ
“ในปี 59 ตลาด Notorious Markets ของไทยเหลือเพียงแห่งเดียวคือ ศูนย์การค้ามาบุญครอง (MBK) จากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยมี Notorious Markets มากถึง 13 แห่ง แต่มาปี 60 ไทยไม่มีตลาดขายสินค้าละเมิดหลงเหลืออีกแล้ว เป็นผลจากรัฐบาลได้ปราบปรามการละเมิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยถูกระบุว่าเป็น Notorious Markets มีการจับกุมกว่า 700 คดี ยึดของกลางเกือบ 150,000 ชิ้น ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.60”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 50 – 59 มีย่านการค้า/ศูนย์การค้าที่เคยถูกระบุว่าเป็น Notorious Markets จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า, คลองถม, สะพานเหล็ก, บ้านหม้อ, ตลาดนัดจตุจักร, MBK, ตลาดนัดถนนวิทยุ, ถนนสุขุมวิท ซอย 3-19, พัฒน์พงษ์, หาดกะรน และหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต, ศูนย์การค้าไอทีซิตี้ พัทยา และตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว สำหรับตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิดสูงในโลก ได้แก่ ตลาด Silk Market และ Hongqiao Market ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน รวมถึงแหล่งขายอื่น เช่น อาร์เจนตินา แคนาดา อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี เม็กซิโก สเปน เป็นต้น ส่วนเว็บไซต์ที่ขายสินค้าละเมิดสูง เช่น เว็บไซต์ 1FICHIER.COM, 4SHARED.COM, DHGATE.COM, INDIAMART.COM เป็นต้น
นอกจากนี้ ในรายงานของ USTR ยังได้ชื่นชมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สั่งการให้ปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจัง จนการละเมิดหมดสิ้นไปในหลายพื้นที่ตั้งแต่เดือนก.ค.60 รวมถึงบูรณาการการดำเนินการอย่างจริงจัง โดยกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทหาร 3 เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เป็นต้น ได้ประสานงานกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจนเห็นผลเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน ยังได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อตรวจตราจับกุม ใน 5 ย่านการค้าสำคัญ คือ MBK ตลาดนัดจตุจักร ตลาดโรงเกลือ หาดป่าตอง และหาดกะรน ตลอดจนไดประสานงานกับเจ้าของพื้นที่เพื่อเสริมสร้าง และความเข้าใจให้แก่ผู้ค้า และสอดส่องดูแลมิให้มีการขายสินค้าละเมิดในพื้นที่ของตนด้วย
“การปรับสถานะของไทยออกจากบัญชีPWL เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.60 และไม่มีชื่อตลาดขายสินค้าละเมิดในไทยในรายงาน Notorious Markets ของสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่า ไทยมีพัฒนาการในการคุ้มครองและบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนที่ดีขึ้น รวมถึงช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย”
Cr.ภาพประกอบจาก www.smartsme.co.th