“พาณิชย์”ถก “พลังงาน” ดึงสต๊อกปาล์มน้ำมันออกจากระบบทันที 1.5 แสนตัน

0
199
“พาณิชย์”ถก “พลังงาน” ดึงสต๊อกปาล์มน้ำมันออกจากระบบทันที 1.5 แสนตัน พร้อมเดินหน้าผลักดันส่งออก ตั้งเป้า 2 แสนตัน มั่นใจหลังลดปริมาณสต๊อกคงเหลือ จะผลักดันให้ราคาผลปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นตามเป้าหมายที่กิโลละ 3.80 บาท
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) โดยล่าสุดกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบทันที 1 แสนตัน เพื่อนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล และยังได้รับที่จะผลักดันให้ผู้ค้าน้ำมัน เพิ่มปริมาณการผลิตไบโอดีเซลจากเดิม 4 ล้านลิตรต่อวันเป็น 6 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยดูดน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบได้อีก 5 หมื่นตัน รวมแล้วจะลดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อกลงได้ 1.5 แสนตันภายใน 1-2 เดือนนี้
“ส่วนการผลักดันการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับผู้ส่งออก เพื่อผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังประเทศเป้าหมายแล้ว โดยเบื้องต้นจะผลักดันส่งออกไปจีนและอินเดีย และประเทศอื่นๆ ที่ทูตพาณิชย์กำลังจะรายงานความคืบหน้าเข้ามา ซึ่งในส่วนนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันส่งออกให้ได้ประมาณ 2 แสนตัน ภายใน 3 เดือนนับจากวันนี้เป็นต้นไป”
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่าการเร่งระบายสต๊อกส่วนเกิน จะช่วยให้ระบบการค้าปาล์มของประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และจะทำให้ราคาผลปาล์มดิบปรับตัวขึ้นตามเป้าหมายที่กิโลกรัม (กก.) ละ 3.80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรขายได้คุ้มต้นทุน
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ ได้มีสัญญาณชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.2560 ที่ผ่านมา โดยราคาได้ปรับตัวลดลงจากกก.ละ 4.20 บาท ช่วงต้นเดือน มาอยู่ที่ กก.ละ 3.40-3.70 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทางการจัดเก็บ แต่เกษตรกรแจ้งว่าราคาขายได้จริงที่หน้าลานเทอยู่ที่กก.ละ 2.70-2.80 บาท ส่วนหน้าโรงงานสกัดอยู่ที่กก.ละ 3.05 บาท ทำให้เกษตรกรออกมาเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เร่งช่วยเหลือ