DHL eCommerce ประเทศไทย เดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย รุกเปิดให้บริการDHL ServicePoints (เซอร์วิสพอยท์) หรือ จุดให้บริการรับส่งพัสดุด่วนภายในประเทศกว่า 200 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ในการจัดส่งพัสดุไปยังลูกค้าที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึงลูกค้าที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ในเขตตัวเมืองและพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ทั่วประเทศ ชูเป็นทางเลือกใหม่จุดรับพัสดุสำหรับขาช็อปออนไลน์เลือกจุดรับบริการใกล้บ้าน ตั้งเป้าขยายทั่วไทยกว่า 1,000 สาขาภายในต้นปีหน้า
คุณเกียรติชัย พิตรปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องควบคู่ไปกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของเราให้มีประสิทธิภาพ และคงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐาน DHL อยู่เสมอ ประกอบกับการนำเสนอบริการรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นตัวเลือกในการใช้บริการสำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเราได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเราเชื่อมั่น ว่า DHL ServicePoints จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและนักช็อปออนไลน์ได้โดยการเป็นทั้งจุดส่งพัสดุ และจุดรับพัสดุที่เข้าถึงได้ง่ายในที่เดียว”
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการออนไลน์ที่ขายสินค้าบน Marketplace Platform หรือ แหล่งซื้อขายสินค้าออนไลน์ สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้บริการจัดส่งพัสดุผ่าน DHLServicePoints ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที ผ่านระบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับรูปแบบการใช้บริการของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่จัดส่งพัสดุผ่าน DHL ServicePointsจะได้รับข้อมูลยืนยันการจัดส่งพัสดุผ่านทาง SMS และอีเมล อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่ง และเลือกใช้บริการชำระเงินปลายทาง (Cash – on – delivery) รวมถึงบริการรับประกันสินค้าได้อีกด้วย
“ในประเทศไทยมีผู้ขายสินค้าบน Marketplace มากกว่า 50,000 ราย และมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เหล่านั้นกว่า 20 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปริมาณความต้องการในการใช้บริการด้านการจัดส่งพัสดุในสัดส่วนที่สูง ดังนั้นความร่วมมือระหว่างDHL eCommerce กับ Marketplace จะช่วยให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์หมดกังวลกับเรื่องช่องทางการจัดส่งพัสดุไปยังผู้บริโภค เพราะผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าวผ่าน DHLServicePointsใกล้สถานประกอบการ หรือสามารถเลือกให้ DHL eCommerce ไปรับสินค้าจากสถานประกอบการได้โดยตรง”คุณเกียรติชัยกล่าว