คลังยอมเลื่อนภาษีที่ดินฯปี 62

0
232
เตรียมรับฟังความเห็นอีกรอบ 19 ธันวาคม หลังสนช.แก้ไขหลักการเพียง พร้่อมเสนอหนทางบรรเทาให้แก่ผู้ประกอบเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภาษีที่ดินใหม่ให้จ่ายส่วนเพิ่มปีละ 25% จากอัตราภาษีใหม่ที่เพิ่มขึ้นจนครบ 4 ปี  
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. … ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่  19 ธ.ค.นี้ โดยจะเปิดการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ได้หารือร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชน ประชาชน และส่วนราชการต่าง ๆ ไปแล้ว และพบว่า ยังมีข้อสังเกตจากหลายส่วนที่ต้องเร่งชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจ ก่อนมีการประกาศใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการ
“ยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องเร่งหาข้อสรุปเพื่อให้เกิดความชัดเจน  หลังจากยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่าควรดำเนินการในแต่ละส่วนที่ยังไม่ชัดเจนอย่างไร เช่นที่ดินที่เป็นสนามกอล์ฟ สวนสนุก หรือสวนสัตว์ ต้องมาดูในส่วนนี้ให้ละเอียดว่า จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด”  
สนช.เล่นบทโหดรีดบ้าน 20 ล้านขึ้น
ส่วนความเห็นของคณะกรรมาธิการ สนช.นั้น ยังคงยืนในส่วนของการยกเว้นภาษีสำหรับที่อยู่อาศัยจากร่างกฎหมายที่เสนอไว้ตั้งแต่ 50 ล้านบาท โดยกรรมาธิการได้ปรับลดลงมาเหลือ 20 ล้านบาท เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากขึ้น ขณะที่บ้านหลังที่ 2 นั้นจัดเก็บภาษีตั้งแต่บาทแรก แต่เบื้องต้นจะให้ลดอัตราภาษีลงมาเหลือ 0.02% เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับเจ้าของที่อยู่อาศัยมากเกินไป เช่น หากที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ราคา 10 ล้านบาท เจ้าของก็จะมีภาระภาษีสำหรับส่วนนี้ 2,000 บาทต่อปีเท่านั้น ซึ่งน่าจะอยู่ในระดับที่รับได้ และไม่เป็นภาระมากเกินไป
ในส่วนของที่ดินเชิงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี จะต้องมาพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มขึ้นว่า ภาระภาษีจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ ดังนั้นอาจจะมีการบรรเทาภาระภาษี เพื่อไม่ให้เป็นภาระมากจนเกินไป 
ทะยอยปรับเพิ่มภาษีปีละ25% 
โดย สนช.ได้เสนอแนวทางบรรเทาภาระภาษีให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว โดยเสนอให้ผู้ประกอบการจ่ายภาระภาษีในส่วนที่เพิ่มขึ้นปีละ 25%รวมระยะเวลา 4 ปี 100% เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวคงจะหารือในรายละเอียดแนวทางการบรรเทาภาระภาษีทีเพิ่มขึ้นนี้ให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอีกคร้ัง เพื่อให้กฎหมายสามารถประกาศใช้ได้ทันตามเป้าหมายในช่วงต้นปี 2562
“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ไม่ใช่กฎหมายภาษีใหม่ แต่เป็นการปรับปรุงจากกฎหมายเดิมที่ใช้อยู่ คือภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งใช้กันมานานแล้ว ดังนั้นอัตราภาษีที่เก็บ จึงจะไม่แตกต่างจากเดิมจนกลายเป็นภาระของประชาชน”
เผย สนช.รื้อใหม่รีดภาษีหนัก 
สำหรับอัตราเพดานภาษีที่รัฐบาลเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1. ที่ดินเพื่อการเกษตรเพดานภาษี 0.2% และให้เว้นเก็บภาษีที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ส่วนที่ดินมูลค่า 50-100 ล้านบาทให้เก็บภาษี 0.05% และมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ให้เก็บภาษี 0.10%
ประเภทที่ 2 เป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเพดานภาษี 0.5% เว้นภาษีบ้านหลังแรกมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท บ้าน 50-100 ล้านบาท ให้เก็บภาษี 0.05% และเกิน 100 ล้านบาทให้เก็บภาษี 0.10%  สำหรับบ้านหลังที่ 2 มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้เก็บภาษี 0.03% บ้าน 50-100 ล้านบาท ให้เก็บภาษี 0.05% และเกิน 100 ล้านบาท ให้เก็บภาษี 0.10% แต่กรรมาธิการ สนช.ได้ปรับลดราคาบ้านที่จะได้รับยกเว้นลงมาเหลือ 20 ล้านบาท ขณะที่บ้านหลังที่ 2 จัดเก็บตั้งแต่บาทแรกขึ้นไปจากเดิมที่ร่างเสนอไว้ที่ 50 ล้านบาท 
ประเภทที่ 3 ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ และประเภทที่ 4 ที่ดินว่างเปล่า กำหนดเพดานภาษีไม่เกิน 2% โดยมูลค่าไม่เกิน 20 ล้านบาท เก็บภาษี 0.3% มูลค่า 20-50 ล้านบาท เก็บภาษี 0.5% มูลค่า 50-100 ล้านบาท เก็บภาษี 0.7% มูลค่า 100-1,000 ล้านบาท เก็บภาษี 0.9% มูลค่า 1,000-3,000 ล้านบาท เก็บภาษี 1.2% และมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท เก็บภาษี 1.5%