สุดช็อค!บินไทยต้องกราวเครื่อง “แอร์บัส 380” 12-20 พ.ย.นี้ เหตุขาดแคลนอะไหล่พ่นพิษ จำต้องหยุดบินชั่วคราว ผู้บริหารลนลานแก้ปัญหาดึงเครื่องรุ่นอื่นทำการบินแทนร่วม 10 ไฟล์ท ขณะสายการบินโลคอสต์ แห่เพิ่มขนาดเครื่องบินเข้าดอนเมืองหลังตารางบินแน่นเอี๊ยด เล็งปรับเที่ยวบินใช้บริการช่วง 3 ทุ่ม ถึง ตี 4 ลดแออัด ยันสิ้นปี 60 ผู้โดยสารพุ่ง 40 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)ว่า ขณะนี้ปัญหาการขาดแคลนอะไหล่เครื่องยนต์ของเครื่องบิน Airbus A380-800 ซึ่งทำให้เครื่องบางส่วนต้องหยุดทำการบินเพราะต้องรอนำเครื่องยนต์ใหม่มาติดตั้งนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทอีกครั้ง โดยล่าสุดการบินไทยได้ประกาศว่า ในระหว่างวันที่12-20 พ.ย. 60 บริษัทมีความจำเป็นต้องนำเครื่องบิน Airbus A380-800 บางลำไปทำการซ่อมบำรุง โดยจะนำเครื่องชนิดอื่นมาบินทดแทนใน10เที่ยวบินดังนี้
1. เที่ยวบินที่ TG116 และ TG117(ไปและกลับ) วันที่ 16 พ.ย. 2560 จะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER 2. เที่ยวบินที่ TG201 และ TG202 วันที่ 15 พ.ย. 2560 จะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 747-400 3. เที่ยวบินที่ TG642 วันที่ 12-19 พ.ย. 2560 และ เที่ยวบินที่ TG643 วันที่ 13-20 พ.ย. 2560 จะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 747-400 4. เที่ยวบินที่ TG678 และ TG679 วันที่ 16 พ.ย. 2560 จะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 777-300 5. เที่ยวบินที่ TG910 และ TG911 วันที่ 13, 15, 16 และ 18 พ.ย. 2560 จะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER สำหรับผู้โดยสารที่จองตั๋วการเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าวและเตรียมที่จะเดินทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THAI Contact Center โทร. 02-356-1111 (ตลอด 24 ชม.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางปีที่ผ่านมาการบินไทยเคยเกิดประสบปัญหาขาดแคลนอะไหล่เครื่องยนต์ของเครื่องมาแล้ว โดยเฉพาะโบอิ้ง 787 Dreamliner ทำให้ต้องจอดเครื่องบินบางลำไม่สามารถนำมาให้บริการได้ เนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหาต้องรอเปลี่ยนเครื่องใหม่จากศูนย์ว่อมที่สิงคโปร์ แต่เนื่องจากเป็นปัญหาของสานการบินอื่นๆ ด้วย ทำให้เครื่องยนต์อะไหล่ไม่เพียงพอและต้องรอการติดตั้งเป็นเวลานาน การบินไทยจึงแก้ปัญหาด้วยการนำเครื่องบินแบบอื่นมาทำการบินทดแทนเป็นการชั่วคราว รวมทั้งมีการควบรวมเที่ยวบินบางเที่ยวบินเข้าด้วยกัน และล่าสุดก็เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันของเครื่องบิน Airbus A380-800 จนต้องประกาศหยุดบินชั่วคราว และทำการเปลี่ยนแบบเครื่องบินอื่นมาบินแทนจำนวน 10 ไฟลต์
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)หรือทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้สายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสแอร์ไลน์)ที่ให้บริการในสนามบินดอนเมืองมีแนวโน้มจะเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินเพื่อให้บรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น จากเดิมที่ใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ320(บรรทุกผู้โดยสารได้ 220 ที่นั่ง) ก็เปลี่ยนขนาดเป็นแอร์บัส เอ340(บรรทุกผู้โดยสารได้ 330 ที่นั่ง) และล่าสุดยังเปลี่ยนเป็นโบอิ้ง 777(บรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 368 ที่นั่ง) เนื่องจากตารางการบินสนามบินดอนเมือง หนาแน่นมากจนไม่สามารถเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในช่วงเวลาปกติได้แล้ว ทางสายการบินจึงต้องใช้วิธีเพิ่มขนาดของเครื่องบินแทน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมรองรับจำนวนเที่ยวบินที่ต้องการใช้บริการที่สนามบินดอนเมืองมากยิ่งขึ้น ได้ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษา ถึงความเป็นไปได้ในการจัดช่วง เพื่อให้สายการบินขึ้นลงในช่วงเวลาระหว่าง 21.00-04.00 น. มากยิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงดังกล่าวยังมีสายการบินใช้บริการน้อย แต่ก็ต้องพิจารณาในเรื่องของผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่รอบสนามบินด้วย เพราะในเมื่อมีการใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นก็จะมีเรื่องเสียงที่ตามมาด้วย
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการที่ สนามบินดอนเมือง นั้น ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2560(ตุลาคม 2559-กันยายน 2560) มีจำนวนผู้โดยสารถึง 37 ล้านคนแล้ว แต่หากพิจารณาเฉพาะปี 2560 คือ มกราคม-ธันวาคม 2560 คาดว่าจะมีผู้โดยสารถึง 40 ล้านคนแน่นอน