BUS&TRUCK’17 งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษระดับอาเซียน วันที่ 2-4 พ.ย. 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ งานแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีภาคธุรกิจขนส่งครบวงจร ดันโลจิสติกส์ไทยสู่ยุคขนส่งด้วยระบบรถดิจิตอล ถนนดิจิตอลในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดมีคนชมงาน 15,000 คน กระตุ้นยอดจองรถเพื่อการพาณิชย์ 600 ล้านบาท
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานงาน BUS&TRUCK’17 (รถบัสและรถบรรทุก ปี 2017) และแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “โลจิสติกส์ 4.0 ตอบโจทย์ขนส่งอย่างไร” โดยมีแขกผู้มีเกียรติและกูรูในวงการรถยนต์ หน่วยงานต่างๆ ในแวดวงขนส่งร่วมงานคับคั่ง โดย นายธีระพงษ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจีดีพีของประทศในการเติบโตมีสัดส่วนระบบต้นทุนโลจิสติกส์ เมื่อปี 50 ต้นทุน 17% ของจีดีพีประเทศ ขณะที่ปี 59 จีดีพีของประเทศลดเหลือ 13.9% ลดลงเหลือ 5% ระยะเวลา 10 ปี ปัญหาขณะนี้ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้จีดีพีของประเทศระบบโลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้า ไม่ใช่แค่ขนส่งสินค้าจากแหล่งผลิตไปที่ท่าเรือขนส่งเท่านั้น แต่เริ่มแหล่งผลิตจากเกษตรกร เมื่อผลิตแล้วเสร็จ ทุกกระบวนการโลจิสติกส์ต้องเข้าถึง นโยบายสำคัญที่สุดในขณะนี้ซึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศจะมีเรื่องโลจิสติกส์ใส่ไว้ด้วยทั้งหมด
“การจัดงานวันนี้เพื่อแสดงความพร้อมของผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบโลจิสติกส์ไทย อาทิ ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต สถานีขนส่ง ได้มีเวทีแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ข้อมูล และเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีในภาคธุรกิจการขนส่ง ทำให้ประเทศก้าวหน้าและเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบโลจิสติกส์อย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และเกิดเป็นประทศและระบบสมาร์ทโลจิสติกส์ เช่น ถนน รถขนส่ง สินค้า สถานีขนส่ง ผู้ประกอบการและคนในระบบโลจิสติกส์ ดังนั้นไทยต้องไม่มองที่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเดียว แต่ต้องมองเรื่องระบบบริหารจัดการด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งจะต้องปรับตัวกับการเปลี่ยน ระบบสมาร์ทโลจิสติกส์ ใน 5 ปีข้างหน้า ที่มีการนำเทคโนโลยีมาให้ในรูปแบบรถดิจิตอล ถนนดิจิตอล ในรูปแบบโลจิสติกส์คอนโทรลเพาเวอร์ควบคุมการขนส่งสินค้า ดังนั้นการร่วมงาน บัส แอนด์ ทรัค 2017 ถือว่าเป็นการร่วมอัพเดทเทคโนโลยีในอนาคตอีกช่องทางหนึ่ง” นายธีระพงษ์ กล่าว
ด้าน นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า งานรถบัสและรถบรรทุก ปี2017 เป็นงานแสดง รถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษระดับอาเซียนที่จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค ด้วยเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการทั่วทุกมุมโลกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ โลจิสติกส์ และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
“การจัดงาน บัส แอนด์ ทรัค 2017 ถือเป็นการรวบรวมนวัตกรรมเทคโนโลยีครบวงจรสำหรับภาคธุรกิจขนส่ง โดยมีผู้ประกอบการจัดแสดงกว่า 100 ราย แบ่งเป็นผู้แสดงสินค้าไทย 80% และผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศ 20% คาดว่ามีผู้ชมตลอด 3 วัน ประมาณ 15,000 คน เน้นที่ภาคการขนส่งเป็นหลัก และคาดว่างานนี้จะมียอดเปิดจองรถใหญ่ประมาณ 150-200 คัน เงินสะพัด 450-600 ล้านบาท ซึ่งถือว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขด้านการส่งออกดีขึ้น ช่วยผลักดันธุรกิจขนส่งไปได้ไกลกว่าปีที่ผ่านมา” นายศุภแมน กล่าว
BUS&TRUCK’17 งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ครั้งที่ 14 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2560 ณ Hall EH106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจในงานมีมากมายมากมาย อาทิ ไทยแลนด์ทัวร์เทค 2017 กิจกรรมประชันและแสดงโชว์ แสง สี เสียงรถโดยสาร ครั้งที่ 8 ที่เดียวในโลก, ทรัคไลท์ โชว์ 2017 การรวมตัวรถบรรทุกแต่งสวยที่มาอวดแสงสี ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560, Exhibitor Forum การเสวนาที่เปิดให้รับฟังฟรี จากกูรูชั้นนำของประเทศ, TEST DRIVE การทดสอบสมรรถภาพรถเพื่อการพาณิชย์ เปิดบททดสอบสุดยอดพลังขับขี่ , โครงการณรงค์ตรวจวัดค่ามลพิษแก้รถโดยสาร (ตรวจควันดำ), THAILAND BES BUS BODY AWARD 2017 การประกวดสุดยอดรถโดยสารมาตรฐาน 1 และ รถโดยสารมาตรฐาน 4, BEST BUS &TURCK 2017 การประกาศและมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์รถใหญ่ ขวัญใจมหาชน, กิจกรรม BEST INNOVATION AWARD 2017 การประกาศและมอบรางวัล “นวัตกรรมเพื่อการขนส่งแห่งปี” เป็นต้น