บอร์ดทอท.ผ่านฉลุยรุกพัฒนาสนามบินภูมิภาค 15 แห่ง เตรียมเปิดประมูลงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันออก “อีสต์วิงสุวรรณภูมิ” 7 พันล้านปลายปีนี้ เผยยอดผู้โดยสารเดือนแรกงบปี 61เติบโตทะลุ 12% มั่นใจผลประกอบการรายได้ทิศทางสดใสหลังผู้โดยสารโตตามเป้า 7%
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บอร์ดทอท.มีมติเห็นชอบในหลักการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ส.)ที่ให้ทอท. เพิ่มบทบาทบริหารท่าอากาศยานโดยเข้ามารับบริหารสนามบินภูมิภาคในสังกัดกรมท่าอากาศยาน(ทย.)ซึ่งทอท.ได้มีการศึกษาเบื้องต้นพบว่า เพื่อให้มีการพัฒนาสนามบินมีศักยภาพแบบกลุ่มคลัสเตอร์ ทอท. จะขอบริหารจัดการสนามบินทย. จำนวน 15 สนามบินจาก 28 สนามบิน โดยจะเสนอแผนให้กระทรวงคมนาคพิจารณาภายในเดือน พ.ย.นี้ ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป หากทอท.ได้รับสิทธิเข้ามาบริหารสนามบินภูมิภาคอีก 15 แห่งจะส่งผลให้มีสนามบินในสังกัดรวม 21 สนามบินทันที
“หากข้อเสนอของทอท.ได้รับความเห็นชอบทั้งจากกระทรวงคมนาคมและ ครม.แล้ว ขั้นตอนต่อไป ทอท.จะกลับมาทบทวนแผนลงทุนของ ทอท.ในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งเรามั่นใจการลงทุนและบริหารสนามบินในภูมิภาคดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้และผลกำไรของทอท. ในอนาคตแน่นอน เพราะการบริหารจัดการทั้้งหมดจะต้องมีกำไรแน่นอน”
นอกจากนี้ นายนิตินัย ระบุอีกว่าสำหรับสนามบิน 15 แห่งที่ทอท.ศึกษาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะเข้าบริหารจัดการประกอบด้วย สนามบินน่าน ลำปาง อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด พิษณุโลก แม่สอด กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสนามบินนราธิวาส พบว่าแต่ละแห่งเป็นศูนย์กลางของแต่ละภูมิภาค อีกทั้งยังพบว่าในจำนวนผู้โดยสาร 1 ล้านคนที่ใช้บริการใน 15 สนามบินนี้ กว่า 26% เป็นผู้โดยสารที่บินมาจากสนามบินอื่นๆ และยังพบว่าผู้โดยสารที่ทำการบินใน 15 สนามบินนี้จำนวนกว่า 16.2 ล้านคนต้องการที่จะทำการบินออกไปต่างประเทศ
“หากกรมท่าอากาศยานให้ทอท.บริหารทั้ง 15 สนามบินหรือยกให้บริหารทั้ง 28 สนามบินทาง ทอท .ก็พร้อมที่จะเข้าไปบริหารจัดการเช่นกัน เนื่องจากทอท. เชื่อว่ามีศักยภาพมากเพียงพอ”
นายนิตินัย กล่าวต่อว่า บอร์ดทอท.ยังมีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการสื่อโฆษณา ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานดอนเมือง โดยให้บริษัทคิว แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัดได้รับสิทธิในการประกอบกิจการสื่อโฆษณา ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต มีอายุสัญญา 10 ปี โดยทอท.เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนในอัตราคงที่ปีแรกเดือนละ 6 ล้านบาท และปรับเพิ่มขึ้น 10% ในปีต่อๆ ไป ส่วนบริษัทเอกชนที่ได้รับคัดเลือกอีกรายคือ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบกิจการสื่อโฆษณาภายในอาคาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีอายุสัญญา 10 ปี โดยทอท.เรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนปีแรกเดือนละ 8 ล้านบาท และปรับเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี
“ส่วนความคืบหน้าโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 นั้นขณะนี้งานขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก(อีสวิงค์) วงเงิน 7,000 ล้านบาทยังอยู่ระหว่างจัดทำเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) คาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนและเปิดประมูลได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้และก่อสร้างต่อไปตามกรอบเวลาเปิดให้บริการช่วงต้นปี 2563 ส่วนปริมาณผู้โดยสารในช่วงเดือนต.ค.60 ว่าผู้โดยสารกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 12% โดยเฉพาะผู้โดยสารต่างประเทศขยายตัวเยอะมาก ส่งจะผลโดยตรงต่อผลประกอบการเนื่องจากอัตราราคาค่าบริการผู้โดยสารต่อหัว(PSC) ของชาวต่างประเทศสูงกว่าชาวไทยถึง 7 เท่าหรืออยู่ที่คนละ 700 บาท”