สหไทยฯ “ PORT ” ท่าเรือเอกชนรายใหญ่ไทย พร้อมเข้าตลาดฯ MAI เร็วๆนี้

0
1221

บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ “PORT” ผู้ให้บริการท่าเรื อเอกชนครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย เตรียมระดมทุนในตลาด MAI ชูจุดแข็งโลเคชั่นดีมีความพร้อมด้านการให้บริ การและมีความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรจากการร่วมทุนกับ สายการเดินเรือใหญ่ระดับโลก พร้อมขยายกิจการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร รองรับการส่งออกเติบโตสูง และ อตสาหกรรมขยายตัวแรงตามยุทธศาสตร์ EEC

นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ “PORT” กล่าวว่า“บริษัทฯ เป็น ผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบวงจรรายใหญ่ ของประเทศไทยให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์สำหรับทั้งเรือขนส่ งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งชายฝั่ง (Barge) โดยท่าเรือของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในทำเลที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศ (อำเภอปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ) ปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่  1. ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรื อเชิงพาณิชย์ครบวงจร สำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง (Barge) รวมถึงให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot)2. ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้ คอนเทนเนอร์ทางบก ภายในบริเวณจังหวัดกรุ งเทพมหานครและปริมณฑล และบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง  3. ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จั ดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสิ นค้า โดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้ คอนเทนเนอร์และคลังจัดเก็บสินค้ ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติ และปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก กลุ่มธุรกิจ ecommerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4. ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่ องอื่นๆ อาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น

นางเสาวคุณ กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้ในปี 2558 บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับสายการเดินเรื อรายใหญ่ของญี่ปุ่น Mitsui O.S.K.Lines (MOL) เพื่อจัดตั้งบริษัทฯ ร่วมทุนชื่อ บริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จำกัด (BBT) โดยในเดือนกรกฎาคมปี 2560 BBT ได้รับใบอนุญาต ICD (Inland Container Depot) ทางน้ำแห่งแรกของไทยจากกรมศุ ลกากรทำให้สามารถดำเนินการสินค้ าขาเข้าได้ นอกจากนี้ในปี 2559 บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับ สายการเดินเรือMediterranean Shipping Company (MSC) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสายการเดิ นเรือรายใหญ่ของโลก ภายใต้ชื่อบริษัท บางกอก บาร์จ เซอร์วิส จำกัด (BBS) เพื่อให้บริการบริหารจัดการเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง จึงมั่นใจว่าบริการ

“ท่าเรือของ PORT มีมาตรฐานระดับโลก ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทั นสมัย เพรียบพร้อม และมีบุคคลากรที่มีความเชี่ ยวชาญสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการขยายการลงทุนเพื่ อรองรับการเติบโตของการลงทุ นโดยภาครัฐสำหรับโครงการ EEC และMega Projectต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณการส่ งออกและนำเข้าสินค้ าของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมี นัยสำคัญ”

คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่ อง โดยในงวดปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวม 841 ล้านบาทในปี2558 และรายได้รวม 830 ล้านบาทในปี 2557 โดยส่วนใหญ่มาจากการเติ บโตของปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่ เพิ่มขึ้น และรายได้จากการให้บริการคลังสิ นค้าเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาทในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 25 ล้านบาทในปี 2558 และจากกำไรสุทธิ 36 ล้านบาทในปี 2557

“ส่วนในงวด เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 644 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้ 480 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 35ล้านบาท โดยกำไรสุทธิลดลงเนื่องจาก บริษัท บางกอก บาร์จ เทอมินอล จำกัด (BBT) มีผลประกอบการขาดทุนจากการที่ เพิ่งเริ่มดำเนินงานปลายปีก่อน และยังไม่สามารถดำเนินงานได้อย่ างเต็มประสิทธิภาพในช่วงที่ผ่ านมา โดยปัจจุบัน ภายหลังจากที่ BBT ได้รับใบอนุญาติ ICD แล้วนั้น ทำให้มีจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ ผ่านท่าเรือเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของ BBT จะปรับตัวดีขึ้นต่อไป บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 230 ล้านบาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 170 ล้านบาท (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท)”

คุณมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปของ  “PORT” จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากธุรกิจท่าเทียบเรื อขนส่งสินค้า เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสู งตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก ในขณะที่มีคู่แข่งน้อยราย เนื่องจากมีอุปสรรคในการเข้ ามาในอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง จากการที่พื้นที่ที่ สามารถนำมาพัฒนาเป็นท่าเรือมีค่อนข้างจำกัด  กอปรกับบริษัทฯ มีทีมผู้บริหารที่เชี่ยวชาญในธุ รกิจ  มีการลงทุนในเทคโนโลยี อุปกรณ์ระดับสูง และ ยังมีพันธมิตรเป็นสายการเดินเรื อระดับโลกถึง 2 ราย จึงมีโอกาสที่จะสร้างการเติ บโตได้เป็นอย่างดี  ทั้งนี้ เราได้วางแผนที่จะเสนอขายหุ้ นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด(มหาชน) จำนวน 120ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 26.09% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้น ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจำนวน ล้านหุ้น จะถูกจัดสรรให้กับกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของ บริษัทฯ ที่ราคาเสนอขายหุ้น IPO โดยหลังจากการระดมทุนแล้ว PORT มีแผนจะนำเงินที่ได้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังการสำรองกำไรสะสมตามที่กฎหมายกำหนดและเงื่อนไขอื่นๆ ตามนโยบายของบริษัทฯ