ปูดโละสต๊อกข้าวรัฐกลิ่นโชยอีก! พ่อค้าร้องเจอสอดไส้ประมูลได้ข้าวนกสูญนับหมื่นล้าน

0
405

โละสต๊อกข้าวรัฐโฉ่อีก พ่อค้าข้าวที่ชนะประมูลข้าวรัฐนับล้านตันเจอข้าวสารสอดไส้ แห่ร้องพาณิชย์ – อคส. – อตก. ขอระงับขนข้าวออกจากโกดัง หลังตรวจสอบเป็นคนละเกรดกับที่ประมูลได้  ประเมินความเสียหายเบื้องต้นแค่ 5 รายกว่า 10,000 ล้าน

ยังคงฉาวโฉ่ไม่เลิกกับกรณีการปูดกระบวนการระบายสต๊อกข้าวรัฐในโครงการรับจำนำที่มีความไม่โปร่งใส ทั้งการนำเอาข้าวดีที่คนบริโภคไปประมูลเป็นข้าวเน่า การปล่อยให้ตั้งบริษัทนอมินีเข้าร่วมประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ล่าสุดยังมีกระแสข่าวว่า พ่อค้าข้าวที่ชนะประมูลข้าวเพื่อการบริโภคและส่งออกเจอข้าวเน่าสวมไส้ จนต้องรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อขอระงับการรับมอบข้าวสารในโครงการนับล้านตันเลยทีเดียว

โดย 1 ในบริษัท ที่เข้าร่วมประมูลซื้อข้าวสารในสต๊อกในโครงการระบายข้าวสารเพื่อการบริโภคของกระทรวงพาณิชย์ จำนวนล้านกว่าตันจาก 190 โกดังทั่วประเทศที่กระทรวงพาณิชย์นำออกประมูลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมาระบุว่า  กลุ่มผู้ค้าข้าวรายใหญ่ 5 บริษัทที่ชนะประมูลข้าวล็อตดังกล่าวคิดเป็นปริมาณมากกว่า  80% ของข้าวที่นำออกประมูลต้องกระอักกระอ่วนใจอย่างหนัก หลังจากเซ็นสัญญาซื้อข้าวสารในโครงการระบายข้าวจากรัฐบาลไปแล้ว เมื่อถึงกำหนดที่ต้องขนย้ายข้าวออกจากโกดังเพื่อนำไปปรับปรุงเพื่อการบริโภคและส่งออกตามสัญญา  กลับพบว่า ข้าวที่ส่งมอบไม่เป็นไปตามสัญญา โดยพบว่า หลายสิบโกดังที่ระบุว่าเป็นข้าวหอมมะลินั้น เมื่อเปิดคลังกลับพบว่ามีข้าวเสื่อมสภาพมากกว่า 20% และยังพบข้าวเน่าสอดไส้เจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เหล่านี้ จึงรวมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนไปยัง รมว.กระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) เพื่อขอระงับการรับมอบข้าวในสต๊อกรัฐบาลเอาไว้ก่อน และขอให้รัฐได้มีการตรวจสอบข้าวที่จะส่งมอบใหม่เพราะถือว่าไม่เป็นไปตามสัญญา “ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ร่วมประมูลข้าวไปกว่า 80% ของโครงการต่างร้องจ๊ากไปตามๆ กัน เพราะเมื่อเปิดดูข้าวที่ประมูลมาได้ ซึ่งระบุเป็นข้าวหอมมะลิ แต่กลับกลายเป็นข้าวเน่าที่ต้องตีเป็นอาหารสัตว์แถมไม่ได้ปนมา 10-20 กระสอบ แต่ปริมาณข้าวเสียเหล่านี้มีถึง 20% ซึ่งเท่าที่ประเมินเบื้องต้น คาดว่า ความเสียหายจากข้าวล็อตที่ประมูลได้นี้จะมีมากกว่า 10,000 ล้านบาท” 

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ และ อคส. ยังคงไม่มีคำชี้แจงใดๆ กลับมา มีเพียงการออกมาให้ข่าวว่า ก่อนการประมูลนั้นได้มีการเปิดคลังให้ผู้ส่งออกได้ดูข้าวสารในสต๊อกที่จะนำมาประมูลแล้ว รวมทั้งก่อนการประมูลก็ได้มีการตรวจสอบ และคัดแยกข้าวที่จะนำออกประมูลอย่างชัดเจนแล้ว และว่าผู้ส่งออกต่างก็ยอมรับเงื่อนไขการประมูลตั้งแต่ต้น จึงไม่สามารถปฏิเสธการรับมอบได้ ทำให้ผู้ส่งออกรายใหญ่เหล่านี้กะอักกระอ่วนใจไปตามๆ กัน

“น่าจะมีขบวนการสอดไส้ข้าวเน่าเหล่านี้ไว้ตั้งแต่ต้น และน่าจะเป็นการร่วมมือระหว่างเข้าของคลังและเซเวเยอร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ  และมีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ การดูแลรักษาข้าวเหล่านี้เป็นไปอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้หรือไม่ เช่น การรมยากันมอดอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ หรือรับเงินไปแล้ว แต่ไม่ทำตามที่ระบุ ตลอดจนการนำข้าวตั้งแต่ปี 2552 มาเวียนเทียนขาย โดยมีผู้รับผิดชอบรู้เห็นเป็นใจ และยังมีการทำข้าวคุณภาพดีออกไปจำหน่าย แล้วนำข้าวเสื่อมคุณภาพเข้ามาแทน”  

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ  (ปปป.) ได้เดินทางมายังกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อยื่นหนังสือขอข้อมูลการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล 3  โครงการ เพื่อนำมาพิจารณาสืบสวน สอบสวนหาข้อเท็จจริง ภายหลังจากเอกชน ที่เข้าร่วมการประมูลข้าวสารของรัฐบาล ได้ร้องเรียนกับ ปปป.ว่า การประมูลข้าวที่ดำเนินการโดยกรมการค้าต่างประเทศไม่โปร่งใส พร้อมกันนี้  จะประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาต่อไปด้วย

ทั้งนี้ การขอข้อมูลครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้ ได้ทำหนังสือขอข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ เมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ อย่างไรก็ตาม จะมีการนัดหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานและทำหน้าที่ระบายข้าวสาร  รวมถึงจะสอบปากคำต่อไป