เปิดวิสัยทัศน์ผู้สมัครดีดีบินไทย ยุคสรรหา “เต่าเรียกพี่” หลังวงในสะพัด กก.สรรหา-บอร์ดดึงเกมสรรหาข้ามปี ผู้สมัครเผยแผนฟื้นฟูบินไทยเน้นสร้างขวัญกำลังใจใช้คนในทำงาน ลดจ้างที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถึงความคืบหน้าของการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ (ดีดี) ที่ผ่านมากว่า 8 เดือนแล้วยังไม่มีข้อยุติ จนมีกระแสข่าวว่ามีการดึงเกมเพื่อประวิงเวลาสรรหาหรือล้มกระบวนการสรรหา ขณะที่สหภาพรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ออกโรงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งสรรหาดีดีใหม่โดยเร็ว เพราะเห็นว่าผู้สมัคร 4 คนที่ถูกเรียกมาแสดงวิสัยทัศน์มีคุณสมบัติเพียงพอนั้น
จากการสอบถาม นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) 1 ในผู้สมัครดีดีบินไทยถึงการแสดงวิสัยทัศน์ล่าสุดต่อคณะกรรมการสรรหานั้น นายยงสิทธิ์กล่าวว่าตนให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามแผนปฏิรูปการบินไทยที่ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจหรือ “ซุปเปอร์บอร์ด” ไปแล้ว และเห็นว่าผู้ที่เข้ามาเป็นดีดีบินไทยนั้นจะต้องปฏิบัติไปตามแผนงานและต้องถูกกำกับอย่างใกล้ชิด ซึ่งในฐานะที่เคยเป็นรองซีอีโอบริษัทดาวเทียมไทยคมและผู้ว่าการรฟม. มาก่อนไม่มีความหนักใจในเรื่องนี้และเชื่อว่าจะสามารถปฏิบัติตามแผนปฏิรูปการบินไทยข้างต้นได้
ในส่วนของวิสัยทัศน์และแนวคิดในการบริหารที่ได้เสนอเพิ่มเติมนั้นตนเน้นใน 4 เรื่องใหญ่คือ ด้านบรรษัทภิบาล บุคคลากร การเพิ่มรายได้และกำไร และเรื่องของการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยในเรื่องของรายได้-รายจ่ายการบินไทยที่มีปีละกว่า 200,000 ล้านบาทนั้นยอมรับว่าสูงมาก หากสามารถแก้ไขปัญหาด้านความโปร่งใส ลดการรั่วไหลลงได้เพียงปีละ 1-2% ก็เป็นเม็ดเงินหลายพันล้านบาทต่อปี ใกล้เคียงกับอัตรากำไรของสายการบินใหญ่ทั้งหลายที่มีอัตรากำไรอยู่ที่ 2- 3% เรื่องนี้ถือเป็นวาระและยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทที่ต้องทุ่มเทจริงจัง
ส่วนเรื่องบุคคลากร ตนเน้นย้ำว่าการบริหารองค์กรนาดใหญ่ใดๆ จะสำเร็จลงได้ หน้าที่ของผู้บริหารต้องให้ความสำคัญเรื่องคนให้มีขวัญกำลังใจดี ต้องสร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมการทำงานแบบสร้างสรรค์ มีส่วนร่วม เชื่อใจกันและกัน มีระบบการประเมินผลด้วยระบบคุณธรรม ที่สำคัญตนเน้นการพัฒนาผู้บริหารจากภายใน ลดการรับคนนอก หรือการใช้บริษัทที่ปรึกษา
ส่วนเรื่องการเพิ่มรายได้และกำไรถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการที่การบินไทยเป็นบริษัทมหาชน มีผู้ถือหุ้นจำนวนมาก มีภารกิจที่ต้องแสวงหายอดขายและกำไรอย่างเต็มที่ มีหน้าที่ความรับผิดชอบต้องสร้างมูลค่าสูงสุดให้ผู้ถือหุ้น จึงต้องสร้างวัฒนธรรมหรือจิตวิญญาณด้านการขาย การตลาดที่เข้มข้น วินัยสูง เป็นเชิงรุก เป้าหมายสูง ซึ่งสอดคล้องกับประวัติตนที่เป็นนักขายนักการตลาดมาก่อน จากผลงานความสำเร็จในบริษัทไทยคมกว่า 20 ปี โดยมีแผนยุทธศาสตร์สำหรับ 4 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจที่หนึ่ง ตั๋วโดยสาร กลุ่มธุรกิจที่สอง บริการเสริม กลุ่มธุรกิจที่สาม หน่วยธุรกิจ และกลุ่มธุรกิจที่สี่ ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ตั๋วโดยสาร “หากรับตำแหน่ง จะส่งเสริมด้านนี้อย่างจริงจัง ต้องขายทุกอย่าง ทุกคนทุกฝ่ายช่วยกันขาย ช่วยกันหาเงินเข้าบริษัท มีรายได้มีกำไร จ่ายเป็นค่าคอม สร้างแรงจูงใจให้พนักงานเต็มที่
ส่วนเรื่องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ที่เป็นเรื่องสำคัญและซับซ้อนมากของธุรกิจสายการบิน ยิ่งการบินไทยมีของเดิมต้นทุนสูง ต้องให้ทุกฝ่ายมีจิตสำนึกและวินัยช่วยกัน แต่ก็ต้องระวังผลกระทบทางลบหากลดต้นทุนจนเกินไป เช่นพนักงานอาจเสียขวัญ หรือขาดเครื่องมือทำงาน เป็นต้น โดยย้ำแนวคิด 1.ทุกบาทมีความหมาย ไม่ใช่เห็นเล็กน้อยก็ละเลยไม่ประหยัด เพราะรวมกันแล้วอาจจะมาก เป็นสัญลักษณ์และกุศโลบายในการสร้างจิตสำนึก 2. แนวคิดปากจระเข้ ที่อ้าปากบนล่างแยกออกพร้อมกัน ปากบนขึ้น คือ เพิ่มรายได้ ปากล่างลด คือ ลดรายจ่าย ยิ่งอ้าปากกว้าง คือ ยิ่งกำไรมาก ต้องทำพร้อมกันตลอด 3.ให้พนักงานมีส่วนร่วม เช่น ให้เสนอแผนหรือไอเดียการเพิ่มประสิทธิภาพ หรือรายรับหรือลดรายจ่ายโดยให้มีโครงการแบ่งประโยชน์ที่ได้กับพนักงาน 4.การปรับแต่งเชิงโครงสร้าง เช่น ปรับชดเชยหาสูตรใหม่ ในการจ่ายภาษีเงินได้ที่บริษัทจ่ายแทนพนักงานหรือรถประจำตำแหน่ง หรือ ค่าล่วงเวลา 5.ปรับโครงสร้างองค์กรลดงาน และหน่วยงานซ้ำซ้อน เพิ่มงานได้โดยไม่ต้องเพิ่มคน 6. เสนอทบทวนการซื้อน้ำมันล่วงหน้า เพราะที่ผ่านมาทำให้ขาดทุนมากสายการบินใหญ่เลิกนโยบายดังกล่าวแล้ว 7. ปรับโครงสร้างทางการเงินเพราะขาดทุนสะสมสูง หนี้สินสูง ค่าดอกเบี้ยสูง ต้องหารือผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กระทรวงการคลังให้สนับสนุน และควรเร่งขายตึกและขายเครื่องบินเก่า 8.แผนซื้อเครื่องบินใหม่ ควรซื้อจำนวนมากแบบบิ๊กล็อต และขายออกเร็ว
นายยงสิทธิกล่าวว่าหลังจากนำเสนอวิสัยทัศน์ไป กรรมการสรรหาได้สอบถามอีกหลายเรื่องซึ่งตนได้ยืนยันไปมีความพร้อมจากประสบการณ์ที่เคยรองซีอีโอไทยคมมากว่า 20 ปีรับผิดชอบและมีผลงานการขายการตลาด มีทักษะ และจิตวิญญาณการขายการตลาดอย่างเข้มข้น ทั้งยังมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีภาวะผู้นำสูง กล้าตัดสินใจ ที่สำคัญผู้บริหารต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย สามารถสื่อสารสร้างความร่วมมือกับพนักงานทุกฝ่าย สหภาพ คู่ค้าทุกองคพายพได้…