บวท.เตรียมนำเทคโนโลยี Digital Tower เพิ่มประสิทธิภาพให้บริการจราจรทางอากาศรองรับเที่ยวบินเพิ่มตั้งเป้าหมายพัฒนาขีดความสามารถด้านการบินของประเทศรองรับปริมาณเที่ยวบิน 1.2 ล้านเที่ยวบินในปี 68 และ 2 ล้านเที่ยวบินในปี 80
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ศึกษาแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาขีดความสามารถ (Capacity) ด้านการบินของประเทศเพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบิน 1.2 ล้านเที่ยวบินในปี 2568 และ 2 ล้านเที่ยวบินในปี 2580 โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศ และการเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต อีกทั้งจะเป็นการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม
นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า บวท. อยู่ระหว่างพัฒนาแนวทางการใช้งานระบบหอบังคับการบินอัจฉริยะ หรือ Digital Tower ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการให้บริการจราจรทางอากาศ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศสามารถมองเห็นภาพที่สมจริงและครอบคลุมของพื้นที่สนามบิน แก้ปัญหาจุดอับสายตา ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เพิ่มระดับความปลอดภัยการใช้งานทางวิ่ง ทางขับ เพิ่มความปลอดภัยในการให้บริการจราจรทางอากาศ และทำให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถพัฒนารองรับการขยายสนามบินในอนาคตโดยไม่ต้องสร้างหอควบคุมการจราจรทางอากาศใหม่เพิ่ม สามารถพัฒนาเป็นหอควบคุมการจราจรทางอากาศสำรอง (Contingency/Backup Tower) รวมถึงพัฒนาเป็นห้องฝึกปฏิบัติจำลอง (3D Simulator) เพื่อใช้ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศได้ โดยในระยะแรกมีแผนนำเทคโนโลยี Digital Tower เข้าใช้งาน ณ สนามบินที่มีความหนาแน่นสูง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และสมุย ในปี 2569 จากนั้นในระยะถัดไปจะเป็นการนำเข้าใช้งานสำหรับสนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศน้อย ในลักษณะ Remote Tower เพื่อช่วยลดภาระในการส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศไปประจำ ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส และท่าอากาศยานเบตง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2570
นอกจากนี้ บวท. อยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมต่อข้อมูลระบบบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ หรือ Air Traffic Flow Management (ATFM) และ Airport Collaborative Decision Making (A – CDM) ซึ่งเป็นกระบวนการตัดสินใจร่วมกันของผู้ใช้งาน ผู้ให้บริการ และผู้ดำเนินงานสนามบิน เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศและการบริหารความคล่องตัวจราจรทางอากาศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น