บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มั่นใจรายได้เติบโตต่อเนื่อง เผยผลประกอบการ(ต.ค.-ธ.ค.67)ฟันกำไรสุทธิ 5,344.30 ล้านบาท คาดซัมเมอร์นี้มีเที่ยวบินทะลุ 543,932 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 พร้อมเปิดโครงการใหม่ขยายการลงทุนและรองรับการเติบโตอุตสาหกรรมการบินคาดผู้โดยสารจะมีเพิ่มขึ้น 170 ล้านคน/ปีในอีก 5 ปี และ 210 ล้านคน/ปีในอีก 10 ปี

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากคาดการณ์ตัวเลขผู้โดยสารที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคตที่เพิ่มมากขึ้น ทอท. พร้อมเดินหน้าโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบินเพื่อเพิ่มรายได้ และอำนวยความสะดวกผู้โดยสารรวมทั้งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
ปัจจุบันธุรกิจของ ทอท. ยังมีแนวโน้มรายได้ที่เป็นขาขึ้นจากปัจจัยด้านการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งผลประกอบการของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 – เดือนธันวาคม 2567 ทอท. มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.12 และมีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารช่วงตารางบินฤดูร้อนในปี 2568 ซึ่งสายการบินมีการขอจัดสรรเวลาการบินล่วงหน้า จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 543,932 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 แบ่งเป็น เที่ยวบินในประเทศ 225,905 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 เที่ยวบินระหว่างประเทศ 318,027 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.6 ขณะที่มีจำนวนผู้โดยสารรวม 87,801,146 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.2 แบ่งเป็น ผู้โดยสารภายในประเทศ 32,844,933 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.0 ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54,956,213 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.0 (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568) ตลอดจนคาดการณ์การเติบโตของปริมาณผู้โดยสารจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 170 ล้านคน/ปี ในอีก 5 ปี และมีผู้โดยสารประมาณ 210 ล้านคน/ปี ในอีก 10 ปี ซึ่งสอดคล้องตามแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. เพื่อจะรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้น ปัจจัยพื้นฐานของ ทอท. ยังคงแข็งแกร่งสะท้อนศักยภาพการเติบโตในอนาคตสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง ทอท. มีแผนลงทุนขยายท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ทั้งด้านผู้โดยสารและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ผ่านการลงทุนเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานเดิมไปจนถึงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 65 ล้านคน/ปี เป็น 150 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย โครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร เพิ่มการรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน โครงการพัฒนาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) เพิ่มการรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) รองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม รวมทั้งโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย โครงการก่อสร้าง ทภก.แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานอันดามัน รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 40 ล้านคน และโครงการก่อสร้าง ทชม. แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานล้านนา รองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20 ล้านคนต่อปี

นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ทอท. ยังมีแผนเพิ่มรายได้แหล่งใหม่ อาทิ 1) โครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี พ.ศ.2562 ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ประกอบด้วย โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องและโครงการคลังสินค้า ณ ทสภ. ของผู้ประกอบรายที่ 3 ณ ทสภ. ซึ่งปัจจุบัน ทอท. อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชน โดยจะมีการประกาศเชิญชวนในเดือนมีนาคม 2568 และโครงการ 400 Hz และ PC-Air โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) โครงการให้บริการการซ่อมขนาดเบาอากาศยาน (Line Maintenance) (โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2569) 2) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง โครงการก่อสร้าง Junction Building และอาคารจอดรถพร้อมพื้นที่ให้บริการโรงแรมเพื่อเป็นจุดเชื่อมระหว่างการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากทางอากาศไปยังระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงและรถสาธารณะต่าง ๆ 3) โครงการพัฒนาที่ดินแปลง 723 ไร่ ณ ทสภ. (Certify Hub และ Airport Logistics Park) ประกอบด้วยศูนย์จัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจร และเป็น Logistics Park ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการขนส่งสินค้าทางอากาศ
นอกจากนี้ ทอท. มีความได้เปรียบด้านศักยภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจและนโยบายส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐที่จะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตในระยะยาว ทอท. จึงมีความเชื่อมั่นทั้งความพร้อมการสร้างรายได้และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนไปจนถึงการเป็นส่วนหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป