กรมการขนส่งทางบก(ขบ.)ขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเข้มควันดำรถโดยสารและรถบรรทุกในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน 8 จุด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เตือนผู้ประกอบการและพนักงานขับรถห้ามนำรถโดยสารหรือรถบรรทุกที่ถูกพ่นห้ามใช้ไปใช้งานเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดปรับไม่เกิน 50,000 บาท
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครอยู่สภาวะวิกฤต รัฐบาลได้มีความห่วงใยต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน จึงได้มอบนโยบายและสั่งการให้หน่วยงานในกำกับเร่งรัดดำเนินมาตรการตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงให้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ทั้งนี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการจัดชุดเฝ้าระวังออกตรวจสอบค่าควันดำจากรถโดยสารสาธารณะ รถร่วมบริการและรถบรรทุกในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในที่มีค่า PM 2.5 สูง
ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยในวันที่ 24 ม.ค. 2568 ได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดเผ้าระวังออกตรวจควันดำ ในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน 8 จุด ได้แก่ 1.บริเวณหน้าฟิวเจอพาร์ครังสิต 2.ท่าเรือคลองเตย 3.หน้าสวนจตุจักร ถ.พหลโยธิน 4. ถ.บางนา-ตราด กม.1 5.ถ.สุวินทวงศ์ หน้าการประปามีนบุรี 6. ถ.พระรามสอง ขาออก หน้าแขวงการทางบางขุนเทียน 7.ถ.รังสิต-นครนายก กม.4 หน้าโลตัส 8.ถ.บรมราชชนนี ขาเข้า-ออก โดยได้ดำเนินการตรวจรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก จำนวน 450 คัน พบมีค่าควันดำเกินมาตรฐานและดำเนินการพ่นห้ามใช้รถแล้ว 11 คัน ในส่วนของรถที่ถูกพ่น “ห้ามใช้” กรมการขนส่งทางบกจะจัดทำบัญชี Blacklist และติดตามการใช้รถผ่านระบบ GPS หากพบว่ามีการฝ่าฝืนใช้รถคันกล่าว จะมีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งนายทะเบียนตามมาตรา 83 มีโทษปรับตามมาตรา 148 ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งนี้ กำชับให้ผู้ประกอบการและเจ้าของรถทุกคันที่ถูกพ่นห้ามใช้ ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพแล้วจึงจะสามารถนำรถไปใช้งานได้
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะดำเนินการเชิงรุกในการแก้ปัญหา PM 2.5 เช่น จัดเจ้าหน้าที่กองตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารประจำทาง ณ อู่รถ ขสมก. ทั้ง 8 เขตการเดินรถ จำนวน 21 แห่ง รวมถึงรถโดยสารประจำทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร , เอกมัย , สายใต้) สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน, บริเวณไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ในเขตกรุงเทพฯ ฯลฯ ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ประกอบการขนส่งตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอเพื่อลดการปล่อยมลพิษ อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศตามกำหนดเวลา , ทำความสะอาดหม้อกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ, ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์เป็นประจำ, ตรวจสอบและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ฉีดน้ำมันได้เป็นฝอยละอองละเอียด และตรวจสอบและทำความสะอาดระบบน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
หากประชาชนพบเห็นรถโดยสารหรือรถบรรทุกมีข้อความห้ามใช้ มาใช้รับส่งผู้โดยสารหรือบรรทุกสินค้าสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ สายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584