ปฏิทินกาลเวลาปี 2567 ดูเหมือนผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบจะครบ 3 ไตรมาสแล้วท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่ยังตกอยู่ในห้วงหลับลึก(ฟื้นตัวช้า)ส่งแรงเหวี่ยงกระทบแทบทุกวงล้อธุรกิจของไทย ไม่เว้นแม้กระทั่งวงล้อธุรกิจตลาดรถเพื่อพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ดูอ่อนแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี
สะท้อนชัดจากยอดขายของแต่ละค่ายไต่ระดับปรับตัวลดลง บางค่ายลดฮวบฮาบจนน่าใจหาย!
เราไปจับชีพจรวงล้อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เมืองไทยหลังเปิดฟลอร์เซิ้งกลยุทธ์การตลาดปี 2567ผ่าน 8 เดือนแรก(ม.ค.-ส.ค.)จากสถิติยอดขายรวมรวบรวมโดย บริษัท บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่ายอดขายรวมอยู่ที่ 12,585คัน(เฉพาะเดือนส.ค.อยู่ที่ 1,498คัน)ปรับตัวลดลงถึง 38 % เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 20,289 คัน
ณ ที่นี้ขอหยิบยกสาธกย่อยในไลน์อัพท็อปโฟว์ฝั่งเวทีญี่ปุ่น โดยเริ่มจากมหาอำนาจยานยนต์จากแดนซามูไรอย่าง“ค่ายอีซูซุ”ที่แม้จะโชว์พลังความดุดันไต่หลังถนนตุนยอดขายได้ 7,478คัน(เฉพาะเดือนส.ค.อยู่ที่ 870 คัน) ถึงกระนั้นก็ยังถือปรับตัวลดลง 29% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 10,536 คัน
ส่วนพี่รองคู่ปรับตลอดกาลของค่ายอีซูซุอย่าง“ค่ายฮีโน่”ที่แต่ละปีไล่บี้ไล่เบียดกับพี่เบิ้มอีซูซุได้สนุกสมศักดิ์ศรีมวยคู่เอก ทว่า ปี 2567 นี้ดูเหมือนค่ายปีกนกจะอ่อนแรงช็อคสาวกฮีโน่ชนิดผิดฟอร์มอย่างเห็นได้ชัด ถึงขนาดเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่ายฮีโน่?พิสูจน์ทราบจากยอดขายรวมหลังผ่าน 8 เดือนแรกเก็บเกี่ยวยอดขายได้ เพียง 3,013 คัน(เฉพาะเดือนส.ค.อยูที่ 360 คัน)ปรับตัวลดลงถึง 57% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 7,066 คัน
ขณะที่เบอร์ 3 ของตลาดอย่าง“ค่ายยูดี ทรัคส์”หลังปีที่ผ่านมาโชว์ผลงานยอดขายนิวไฮทุกสถิติในรอบ 5 ปีแล้ว ครั้นปีนี้ผ่านมา 8 เดือนแรกเมื่อเทียบปัจจัยแวดล้อมและลมหายใจเชิงการแข่งขันกับค่ายอื่นๆในสมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยโดยรวมแล้ว ถือว่าฟอร์มยัง(พอ)มีดีเพราะสามารถสอยมาได้ 825 คัน(เฉพาะเดือนส.ค.อยู่ที่ 96 คัน) ปรับตัวลดลงที่ 8% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 900 คัน
ฟากค่ายชบาแดงฟูโซ่ที่ถูกมองว่ายังโชว์ผลงานไม่เข้าตากรรมการนับตั้งแต่มาซุกใต้ปีกบริษัทแม่ที่หมายมั่นปั้นเองกับมือ ผลงานปีนี้หลังผ่านพ้น 8 เดือนแรกเก็บเล็กผสมน้อยได้ 165 คัน(เฉพาะเดือนส.ค.อยู่ที่ 42 คัน)ปรับตัวลดลง 37% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 262 คัน
อย่างที่จั่วหัวเอาไว้และต้องจับตากับการวิ่งสู้ฟัดสำหรับค่ายยูดี ทรัคส์ อีกหนึ่งรถบรรทุกพันธุ์แกร่งจากแดนปลาดิบในเมืองไทยหลังห้วงปี 2566 ที่ผ่านมาได้สาวพวงมาลัยพลางสับเกียร์ Escot โชว์ผลงานได้ดีต่อเนื่อง ด้วยสถิติยอดจดทะเบียนรวมทั้งปีทะลุถึง 1,410 คัน ถือเป็นตัวเลขการเติบโตเพิ่มถึง 47% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และเติบโตทุบสถิติในรอบ 5 ปีหลัง พร้อมยึดเบอร์ 3 ตลาดรถใหญ่บ้านเราไว้เหนียวหนึบอีกปี
ทว่า วงล้อธุรกิจปี 2567ที่หมุนเกือบครบ 3 ไตรมาสแล้ว เหลืออีกเพียง 1 โค้งไตรมาสสุดท้าย คือหนทางพิสูจน์ความท้าทายสำหรับค่ายยูดี ทรัคส์ว่าจะสามารถรักษาฟอร์มเก่งไว้ดีต่อเนื่องอีกปี พลางรีดพลังเกียร์ Escot ไต่ระดับดันความนิยมของลูกค้าคนไทยในแบรนด์ภายใต้สโลแกนที่ว่า“ยูดี ทรัคส์ ให้คุณไปได้ไกลกว่า” หรือ Drive for better ด้วยยอดขายให้เข้าใกล้ หรือไกลกว่าปี 2566 ที่ผ่านมาน้อยมากน้อยเพียงใด?หรือไม่?อย่างไร?
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังหลับลึกและต้องอาศัยแรงกระตุ้นปลุกกำลังซื้ออย่างหนักหน่วงส่งต่ออานิสงส์รัวๆต่อวงล้อตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่เมืองไทย พอได้เปิดชีพจรให้ได้หายใจโล่งๆพุ่งชนเป้าหมายในโค้งสุดท้ายปลายปี
ท้ายสุด…กาลเวลาเท่านั้น…จะเป็นเครื่องพิสูจน์!
:จิ้งเหลนไฟ
