นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่มีน้ำรั่วเข้าภายในขบวนรถไฟฟ้า และมีผู้โดยสารได้รับผลกระทบ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 นั้น รฟม. ได้สั่งการให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุในทันที โดยได้รับรายงานว่ารถไฟฟ้าขบวนที่เกิดเหตุเป็นขบวน VN12 ซึ่งวิ่งออกจากสถานีบางซื่อ ไปยังสถานีเตาปูน มุ่งหน้าปลายทางสถานีท่าพระ เกิดระบบท่อระบายน้ำของเครื่องปรับอากาศมีปัญหา ทำให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าสู่ภายในขบวนไม่ใช่สาเหตุจากน้ำฝนรั่วเข้ามา โดยบริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ของระบบปรับอากาศภายในรถไฟฟ้าทุกขบวนเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และได้ปรับปรุงเพิ่มความถี่ในการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้า MRT ทุกขบวนได้มีการออกแบบติดตั้งระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอย่างถูกต้อง ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ไฟฟ้าตามมาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์เสาและราวจับต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร มีการติดตั้งระบบสายดินป้องกันไฟรั่วไว้เช่นเดียวกัน และยังมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่สามารถตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่ว เพื่อตัดระบบการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกไปก่อนที่เกิดปัญหาได้ในทันที จึงมั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะไม่เกิดอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูดอย่างแน่นอน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยถอนรถไฟฟ้าขบวนดังกล่าวออกจากการให้บริการและให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีเข้าดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบแล้ว
นายวิทยา พันธุ์มงคล กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ปกติ และ รฟม. ได้สั่งการให้บริษัทฯ ตรวจสอบสภาพรถไฟฟ้าทุกขบวนว่าปลอดภัย 100% ก่อนจะนำเข้ามาวิ่งให้บริการในระบบ ซึ่งไม่พบปัญหา เหมือนขบวนที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งกำชับให้บริษัทฯ หามาตรการป้องกันที่เหมาะสมจากเหตุใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการให้บริการ ในช่วงฤดูฝน รวมถึงการดูแลพื้นที่ในโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 สาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช – เมืองทองธานี โดยกำชับให้บริษัทฯ จัดเตรียมมาตรการรองรับการทำงานในช่วงหน้าฝน เพื่อให้มีความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ได้แก่ การตรวจสอบสภาพท่อ/ทางระบายน้ำ ลำลาง และคูคลองต่าง ๆ ตลอดแนวก่อสร้างไม่ให้มีการอุดตัน การป้องกันไม่ให้เศษหินดินทรายตกหล่นไหลลงสู่ทางระบายน้ำและกีดขวางการระบายน้ำ การจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำให้พร้อมสำหรับใช้งาน พร้อมทั้งจัดหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉินและบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือเร่งด่วนเมื่อเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งสามารถเข้าช่วยเหลือรถยนต์ที่จอดเสียได้อีกด้วย