จำเป็นต้องขึ้น!กทพ.แจ้งปรับขึ้นค่า 2 ทางด่วน”ฉลองรัช-บูรพาวิถี” 5 บาท เริ่ม1มี.ค.นี้เป็นต้นไป

0
70

กทพ.ย้ำถึงความจำเป็นต้องปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถีตามเงื่อนไขสัญญากองทุน TFFIF เริ่ม 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไปหลังจากเดิมที่จะปรับขึ้นค่าผ่านทางมาตั้งแต่ 1 ก.ย.ปีที่แล้ว ชี้ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี มิได้มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางมากว่า 6 ปี

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี ตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF ที่จะปรับขึ้นทุก 5 ปี โดยจะปรับอัตราค่าผ่านทางในวันที่ 1 มี.ค. 2567 หลังจากที่ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญา มาตั้งแต่ 1 ก.ย. 2566 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ทางพิเศษและประชาชน ทั้งนี้ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี มิได้มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางมากว่า 6 ปี และทั้งนี้การปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าว  คิดคำนวณตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่จะปรับขึ้นประมาณ 10% หรือประมาณ 5 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

อัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช

รถ 4 ล้อ ​ราคาเดิม 40 บาท ​ปรับเป็น  45 บาท

รถ 6-10 ล้อ ​ราคาเดิม 60 บาท ​ปรับเป็น 65 บาท

รถมากกว่า 10 ล้อ ​ราคาเดิม 80 บาท ​ปรับเป็น 90 บาท

ยกเว้นด่านฯ รามอินทรา 1 และด่านฯ สุขาภิบาล 5-2

รถ 4 ล้อ​ราคาเดิม 20 บาท ​ไม่มีการปรับขึ้น

รถ 6-10 ล้อ​ราคาเดิม 30 บาท​ปรับเป็น 35 บาท

รถมากกว่า 10 ล้อ​ราคาเดิม 40 บาท​ปรับเป็น 45 บาท

อัตราค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี

รถ 4 ล้อ

– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะใช้อัตราค่าผ่านทางเดิม

– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 5 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 บาท โดยคิดตามระยะทาง

รถ 6-10 ล้อ

– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท

– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยคิดตามระยะทาง

รถมากกว่า 10 ล้อ

– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท

– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 บาท   โดยคิดตามระยะทาง

ทั้งนี้ กทพ. ได้พยายามชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางของทางพิเศษทั้ง 2 สายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางพิเศษฉลองรัช ที่ไม่ได้ปรับขึ้นค่าผ่านทางมาเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว แม้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษาทางพิเศษเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีก็ตาม ซึ่ง กทพ. ขอขอบพระคุณประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ ที่ให้การสนับสนุน กทพ. ด้วยดีมาโดยตลอด