ทอท.นำร่องนำรถแท็กซี่ไฟฟ้ามาให้บริการแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และติดตั้งสถานีให้บริการเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (EV Charge) สำหรับรถแท็กซี่ไฟฟ้าสมาชิก บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน E ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งสู่ท่าอากาศยานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต้นแบบหรือ Green Airport แห่งแรกในไทย
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์ 1 คันปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 5 ตันต่อปี ซึ่งในประเทศไทยมีรถยนต์มากกว่า 10 ล้านคัน ทอท. ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ทสภ. ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ตอบรับนโยบาย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการผลักดันความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งของไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ทอท. จึงให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งขับเคลื่อน ทสภ. สู่การเป็นต้นแบบ Green Airport แห่งแรกในประเทศไทย ดังนั้น การเปลี่ยนรถยนต์ ที่ให้บริการ ณ ทสภ. ให้เป็นรถไฟฟ้า (EV) จะทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 50 ล้านตันต่อปี
นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้บริการยานยนต์ไฟฟ้ารับจ้างสาธารณะ (EV Taxi) นั้น ปัจจุบันมีสมาชิกผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ เริ่มให้ความสนใจปรับเปลี่ยนมาใช้ EV Taxi มากขึ้น ทั้งนี้ ช่วงแรก ทอท. ดำเนินการติดตั้งสถานีให้บริการเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบใช้สายโดยการอัดประจุแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charge) ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าในการอัดประจุ 40 kW ต่อเครื่อง จำนวน 16 เครื่อง และ 150 kW ต่อเครื่อง จำนวน 2 เครื่อง บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน E ทสภ. สำหรับรองรับการให้บริการแก่รถแท็กซี่ที่จะเปลี่ยนมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ทสภ. อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งเครื่อง DC Fast Charge ซึ่งมีกำลังไฟฟ้าในการอัดประจุ 360 kW ต่อเครื่อง จำนวน 10 เครื่อง และ 150 kW ต่อเครื่อง จำนวน 2 เครื่อง เพื่อรองรับการให้บริการแก่รถบริการรับ – ส่งผู้โดยสาร (Shuttle Bus) รถบริการสาธารณะ รถส่วนกลาง และรถส่วนงานของ ทอท. ภายในพื้นที่ Support Facilities บริเวณตรงข้ามศูนย์บริหารการขนส่งสาธารณะ และยังมีโครงการติดตั้ง EV Charging Station ทั้งในพื้นที่เขตการบิน (AIRSIDE), นอกเขตการบิน (Landside) และเขตปลอดอากร (Custom Free Zone) รวม 7 จุด เพื่อรองรับแนวโน้มที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมในวงกว้าง ตามทิศทางที่ทั่วโลกที่หันมาสนใจการใช้ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดอีกด้วย
ทอท. มีความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักธรรมาภิบาล และมุ่งสู่การเป็น Green Airport เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างมั่นคง และยั่งยืน