“สุริยะ“แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต-ผู้บาดเจ็บจากเหตุกระเช้ารถเครนร่วงหล่นบนโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สั่งหยุดงานอย่างน้อย 3 วัน พร้อมมอบ ทล.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ด้าน “โฆษกคมนาคม” ลงพื้นที่ด่วน เผยขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการบำรุงรักษารถเครน ระบุผู้ขับรถเครนยืดเครนสูงแต่ไม่หย่อนสลิง ทำให้สลิงตึงจนขาด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย-บาดเจ็บ 1 ราย จี้ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุด
นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 ช่วงบางขุนเทียน – เอกชัย ตอน 1 พื้นที่เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร วันนี้ (18 ม.ค. 2567) ว่า กรมทางหลวง (ทล.) โดยสำนักก่อสร้างสะพาน ได้รายงานอุบัติเหตุกระเช้าของรถเครนร่วงหล่นภายในพื้นที่การก่อสร้าง เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บได้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งกำหนดแนวทางด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ยังได้สั่งการให้บริษัทผู้รับจ้างหยุดงานเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อตรวจสอบสาเหตุและความพร้อมของเครื่องจักร และให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในการดำเนินงาน ก่อนที่จะเริ่มงานก่อสร้างต่อไป
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์อุบัติเหตุกระเช้าของรถเครนร่วงหล่นดังกล่าว เกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. โดยได้เกิดอุบัติเหตุกระเช้าของรถเครนร่วงหล่น ซึ่งในช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น อยู่ระหว่างการรบำรุงรักษารถเครน และอุปกรณ์ในการยกหิ้วแขวนของงานก่อสร้างฯ ซึ่งไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาของการก่อสร้าง แต่ด้วยผู้ขับรถเครนที่มาจากสำนักงานใหญ่เกิดความผิดพลาด โดยเมื่อยืดเครนขึ้นไปในระดับสูง แต่ไม่ได้ปลดสลิงให้หย่อนตัว จึงทำให้สลิงที่หิ้วกระเช้าตึงและขาด ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ที่อยู่บนกระเช้ารถเครนร่วงหล่นลงมาด้านล่าง
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างก่อสร้างดังกล่าว ดำเนินการโดยบริษัทกิจการร่วมค้าเอ็นทีเอ สัญญาเลขที่ สส. 23/2562 โดยที่ผ่านมาทางสำนักก่อสร้างสะพาน ได้สั่งการให้บริษัทผู้รับจ้างทุกสัญญา ดำเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อรถที่สัญจรผ่านแต่อย่างใด