ขยับเข้าไปใกล้ทุกขณะแล้วสำหรับงาน Thailand International Truck Show 2017 (TTS 2017) หรืองานมหกรรมรถบรรทุกนานาชาติครั้งที่ 2 จัดโดยบริษัท นิชิโอะ เร้นท์ออล จำกัด และบริษัท พาราบ๊อกซ์ จำกัด ซึ่งจะได้ฤกษ์เปิดหน้าม่านความยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “Move Forward with ASEAN Truck Logistics” ระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายนศกนี้ ณ อาคาร 1-2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี
ล่าสุด คณะกรรมการจัดงาน Thailand International Truck Show 2017 (TTS 2017) โดยมร.คาซูโนริ ชิบาโมโต ประธานคณะกรรมการจัดงานฯและ มร.ยูคิโอะ โอกุดะ เลขาฯคณะกรรมการจัดงานฯ ได้สะท้อนมุมมองความสำคัญของเครือข่ายระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน และเผยถึงความคืบหน้าการจัดงานดังกล่าวกับ Logistics Time ดังนี้
ย้ำ TTS 2017 เชื่อมโยงโอกาสการค้าการลงทุนไทย-อาเซียน
มร.คาซูโนริ ประธานคณะกรรมการจัดงานฯ ได้ฉายภาพและสะท้อนมุมมองต่อความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนว่า การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งข้ามแดนระหว่างประเทศที่มีเชื่อมต่อกันทางถนนในภูมิภาคอาเซียนนี้ จะยังมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งอานิสงส์ให้ภาคธุรกิจรถบรรทุกมีอัตราการเติบโตและขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งในอนาคตยังต้องพัฒนายิ่งขึ้นเพื่อรองรับการพัฒนาทางด้านขนส่งทางถนนของภูมิภาคอาเซียนนี้
“การเชื่อมต่อทางแผ่นดิน อีกทั้งการก่อสร้างเครือข่ายระบบโลจิสติกส์ของเมืองหลักๆในภูมิภาคนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญโดยตรงอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของทุกๆประเทศ ด้วยเหตุนี้ บทบาทของหน่วยงานภาครัฐทุกๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของกฎหมาย หรือการเตรียมความพร้อมด้านระบบต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนล้วนมีความคาดหวังที่จะอยากให้ภาครัฐของทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีแนวทางและการดำเนินงานที่จะช่วยเอื้ออำนวยให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งจากยุโรป ญี่ปุ่น จีน และชาติอื่นๆ ให้สามารถเข้ามาร่วมลงทุนในภูมิภาคนี้ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการก่อสร้างถนนหนทาง หรือสะพาน และอื่นๆ ตลอดจน ขั้นตอนด้านศุลกากรเพื่อการนำเข้า-ส่งออก”
ส่วนมุมมองต่อความมั่นใจการจัดงานครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จนั้น มร.คะซุโนริ ระบุว่า ในฐานะที่เราเป็นบริษัทผู้จัดงานจากญี่ปุ่น ที่มีเน็ตเวิร์คกับผู้ประกอบการรถบรรทุกญี่ปุ่น อีกทั้งสมาคมและองค์กรด้านโลจิสติกส์ของญี่ปุ่น ทำให้เราเชื่อมั่นว่าการจัดงาน TTS 2017 ครั้งนี้จะเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการของไทย ตลอดจนผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานแล้ว นำไปสู่ประโยชน์ทางการค้าการลงทุนต่างๆ โดยเห็นได้จากการได้รับความสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ ทั้งสถานทูตญี่ปุ่น, เจโทร กรุงเทพฯ อีกทั้งความร่วมมือจากสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน หรือ ATF ที่มีคุณยู เจียรยืนยงพงศ์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานฯในเวลานี้ ซึ่งก่อตั้งโดยผู้แทนจากสมาคมที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกการขนส่งและโลจิสติกส์ในอาเซียน ซึ่งมีเห็นพ้องตรงกันที่มุ่งหวังจะยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนให้ดีขึ้น ด้วยความร่วมมือนี้เหล่านี้ผู้จัดงานฯมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะจัดงานที่มีความเป็นนานาชาติให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
มั่นใจมีผู้ร่วมชมงานกว่าหมื่นคนตลอดระยะเวลา 3 วัน
ขณะที่มร.ยูคิโอะ โอคุดะ เลขาฯคณะกรรมการจัดงานฯ เปิดเผยถึงการประชาสัมพันธ์งาน TTS 2017 ว่าเราทำทั้งการส่ง EDM, นิตยสาร วารสารต่างๆที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ การโฆษณาตามสื่อต่างๆ กลางแจ้ง รายการโทรทัศน์และอื่นๆ มากเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบการญี่ปุ่นทั้งชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย หรือผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่มีความสนใจจะขยายธุรกิจในประเทศไทยเองก็เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยมีการกระจายข่าวสารของงานไปอย่างหลากหลาย ซึ่งไม่ได้มุ่งหวังแค่เพียงยอดตัวเลขผู้เข้าชมงาน แต่ต้องเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อ และตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานได้
“ทางผู้จัดงานฯได้มีการลงนามความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์งานร่วมกับงาน INTERMAT ASEAN ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม การเจรจาธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและวัสดุก่อสร้าง โดยได้จัดทำประตูทางเข้าพิเศษระหว่างอาคารจัดงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ร่วมงาน ยกระดับให้ทั้ง 2 งานครบวงจรมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะทำให้มีผู้เข้าร่วมชมงานรวมกว่า 10,000 คน ตลอดระยะเวลาจัดงาน 3 วัน”
อย่างไรก็ดี มร.ยุคิโอะ.สรุปปิดท้ายว่าจากความสำเร็จในการลงนามก่อตั้งสหพันธ์การขนส่งทางรถบรรทุกแห่งอาเซียน หรือ ATF ของผู้แทนจากสมาคมเกี่ยวข้องกับรถบรรทุกการขนส่งและโลจิสติกส์ในอาเซียนในงานการจัดงานแรกเมื่อเมื่อปี พ.ศ. 2558 นั้น จะเป็นภาคีเครือข่ายที่มีบทบาทและส่วนสำคัญให้การจัดงานครั้งนี้ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากบุคคลในแวดวงรถบรรทุกและการขนส่งจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนเดินทางเข้ามาชมงานในครั้งนี้มากขึ้น