กรมทางหลวงชนบท(ทช.)ขยายถนนชัยพฤกษ์ คืบหน้าเกินครึ่ง มุ่งเพิ่มศักยภาพการใช้งานถนนให้สมบูรณ์ บรรเทาการจราจรติดขัด รองรับการขยายตัวพื้นที่กรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานีให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2567
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม รายงานความคืบหน้าโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี กว่าร้อยละ 52 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระอุดม สะพานข้ามคลองบางภูมิ และงานขยายผิวจราจร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรในช่วงปลายปี 2567 ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ ทช. ดำเนินโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้ดำเนินไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นการเพิ่มศักยภาพการใช้งานของถนนชัยพฤกษ์ให้สมบูรณ์ สามารถรองรับปริมาณการจราจรได้มากยิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ช่วยแบ่งเบาการจราจรที่ต้องการเดินทางออกนอกเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน
ทช. ได้ดำเนินโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี แบ่งเป็นงานก่อสร้างปรับปรุงถนนคู่ขนานระดับดิน ขนาด 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง จากเชิงลาดสะพานพระราม 4 ถึงทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ และงานปรับปรุงขยายผิวจราจร ขนาด 1 ช่องจราจรต่อทิศทาง จากทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ถึงถนนบางกรวย – ไทรน้อย รวมระยะทาง 6.892 กิโลเมตร พร้อมก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระอุดม สะพานข้ามคลองบางภูมิ 4 แห่ง และงานก่อสร้างทางเท้า ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ใช้งบประมาณก่อสร้าง 902 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันถนนชัยพฤกษ์เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร มีปริมาณจราจรสูงกว่า 40,000 คันต่อวัน ส่งผลให้ถนนชัยพฤกษ์มีสภาพการจราจรที่หนาแน่น และมีแนวโน้มที่จะติดขัดมากขึ้น ประกอบกับเมื่อถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ – ใต้) เปิดใช้งาน ทำให้ถนนชัยพฤกษ์สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่จังหวัดปทุมธานีได้รวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น จึงเป็นการดึงดูดปริมาณจราจรให้เข้ามาใช้เส้นทางถนนชัยพฤกษ์มากตามไปด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างการก่อสร้าง ทช. ได้ติดตั้งแบริเออร์ และป้ายเตือนลดความเร็วเพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน และขอความร่วมมือให้ผู้ใช้เส้นทางโปรดสังเกตป้ายจราจร รวมถึงปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนต่อไป
