ก้าวสู่ปีที่ 3 “สมหวัง เงินสั่งได้” เดินหน้าขยายสาขาเป็น 200 แห่ง ดันสินเชื่อคงค้างทะลุ 10,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2560 ย้ำจุดยืนปล่อยสินเชื่อแบบรับผิดชอบต่อสังคม เปิดตัวแคมเปญ “ความสุขยืดได้ 60วัน” ด้วยการยืดระยะเวลาการผ่อนคืนงวดแรกนานสูงสุดถึง 60 วัน เพื่อมอบความสุขแก่ผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าให้ความรู้ทางการเงินแก่ชุมชนต่อเนื่อง
นายศุภชัย บุญสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภทภายใต้ชื่อ “สมหวัง เงินสั่งได้” ในเครือ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยว่า สมหวัง เงินสั่งได้ ฉลองการดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เปิดตัวแคมเปญ “ความสุขยืดได้ 60วัน” ด้วยการยืดระยะเวลาการผ่อนชำระคืนค่างวดในงวดแรก เป็นระยะเวลานานสูงสุดถึง 60 วัน นับจากวันที่ได้รับอนุมัติและรับวงเงิน มอบให้กับลูกค้าที่สมัครขอสินเชื่อทะเบียนรถทุกประเภท เพียงแค่มีล้อ มีเล่มทะเบียน ก็สามารถมาใช้บริการที่ “สมหวัง เงินสั่งได้” ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกันและไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2560
ทั้งนี้ แคมเปญ “ความสุขยืดได้ 60วัน” ดังกล่าว ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับคนมีเพื่อนเยอะ ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าของสมหวัง เงินสั่งได้หรือไม่ เพียงแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักมาใช้บริการที่บริษัท จะได้รับบัตรกำนัลบิ๊กซี มูลค่าสูงสุด 500 บาท ต่อราย โดยยิ่งแนะนำมาก ยิ่งได้รับมาก แบบไม่จำกัดจำนวน
“แคมเปญดังกล่าว ถือเป็นการคืนความสุขให้กับลูกค้า รวมถึงตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่ออย่างรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะการดึงหนี้จากนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบการเงิน ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการร่วมกับกิจกรรมให้ความรู้ “ฉลาดเก็บ ฉลาดใช้ กับสมหวัง” ส่งเสริมความรู้ทางการเงินแก่สังคมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า ในปี 2560 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดย 2 ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักมาจากการส่งออกที่มีแนวโน้มสดใสขึ้น และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดังกล่าวเชื่อว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อขยายธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตมากขึ้น ดังนั้น กลยุทธ์ของบริษัทในปีนี้จึงจะเน้นการขยายการเติบโตของสินเชื่อและการขยายฐานลูกค้าควบคู่กัน โดยตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 200 แห่ง และตั้งเป้าเพิ่มยอดสินเชื่อคงค้างเป็น 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 25% จากสิ้นปี 2559 ที่ทำได้ตามเป้าหมายในระดับ 8,000 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปที่เน้นคุณภาพสินเชื่อ
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้บริษัทเตรียมขยายธุรกิจไปยังธุรกิจนายหน้าประกันภัย (โบรกเกอร์) เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการอย่างครบวงจร
“เราไม่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่จะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ตามแนวทางของกลุ่มทิสโก้ ที่เน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงรักษามาตรฐานการให้บริการเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า เพราะเราต้องการทำธุรกิจในระยะยาว” นายศุภชัย กล่าว
ด้านแผนการตลาดของบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญในการตลาดทั้งในรูปแบบ Below the Line ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกับผู้บริโภคโดยตรง เช่น การจัดคาราวานไปตามชุมชนต่างๆ การออกบูธ การจัดกิจกรรม “ฉลาดเก็บ ฉลาดใช้ กับสมหวัง” เพื่อให้ความรู้แก่ชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมในการสร้างวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่องให้กับผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว 48,645 ราย และตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 35,000 ราย รวมถึงการทำตลาดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อตอกยั้ำแบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง และในเชิงลึกมากขึ้น
สำหรับภาพการแข่งขันในตลาดสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ในปัจจุบัน ยอมรับว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น จากจำนวนผู้เล่นที่มากขึ้นทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งบริษัทจะใช้ความได้เปรียบในการเป็นผู้ให้สินเชื่ออย่างมีมาตรฐานในเครือธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้คงอยู่ในระดับเทียบเท่ากับปัจจุบันที่ระดับต่ำกว่า 2%