จากสถิติของกรมขนส่งทางบก (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559) ประเทศไทยมีจำนวนรถยนต์สะสมทั้งหมด 15 ล้านคัน ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 40 หรือมากกว่า 9 ล้านคัน หากชำแหละลึกลงไปในรายละเอียดของบรรดารถที่ก้าวข้าม 1 ทศวรรษไปแล้ว เจ้าของต้องคิดหนักในแง่ปัญหาการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ การสึกหรอของเครื่องยนต์ การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง หรือการรักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ หากไม่ได้รับการดูแลและบำรุงรักษาที่เหมาะสม ทำให้ผู้ขับขี่ล้วนต้องวิตกกังวลต่อความปลอดภัยในการขับขี่
ทว่าในยุคที่เทคโนโลยีสุดล้ำเบ่งบานก็ย่อมทำให้ปัญหาและอุปสรรคลดน้อยลง เพราะยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจพลังงานระดับโลกอย่าง เชลล์ ได้เปิดตัวน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์คุณภาพสูง “เชลล์ เฮลิกส์ ไฮไมล์เลจ” ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หรือขับขี่เกิน 100,000 กม. เพื่อเครื่องยนต์ที่ต้องการบำรุงรักษามากเป็นพิเศษ มอบการขับขี่ที่ปลอดภัยลดความกังวลใจ ตอบรับความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต พร้อมส่งแคมเปญการตลาดแบบ 360 องศาสร้างการรับรู้ถึงกลุ่มเป้าหมาย รุกสานต่อโครงการรับประกันเครื่องยนต์เติมความสุขให้กับผู้ขับขี่บนท้องถนนอย่างเต็มที่
นายอัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าเชลล์มุ่งมั่นพัฒนาและมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคมาตลอด จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดน้ำมันหล่อลื่นทั่วโลกประจำปี 2559 ติดต่อกันเป็นปีที่ 10 จาก ไคล์ แอนด์ คอมพานี (Kline & Company)* ซึ่งเป็นสถาบันด้านการวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก สิ่งนี้คือความภูมิใจของเชลล์เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลกมาสู่ผู้บริโภคชาวไทยในรูปของผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเสมอมา การเปิดตัวครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้เลือกสรรเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสที่เชลล์อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นปีที่ 125 โดยผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยให้ผู้ที่ขับขี่รถเกิน 100,000 กิโลเมตร มั่นใจได้ว่า เครื่องยนต์จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อการขับขี่ที่มั่นใจและปลอดภัย
“ผลวิจัยสำรวจพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ใช้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมายาวนาน พบว่ามีความผูกพันกับรถยนต์เสมือนรถคู่ใจ อยากดูแลเป็นพิเศษเพื่อจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ โดยพวกเขาตระหนักถึงปัญหาของเครื่องยนต์ ทั้งเรื่องการสึกหรอที่เพิ่มขึ้น สมรรถนะที่ลดลง การรั่วซึมของน้ำมันเครื่องหรือแม้แต่เครื่องยนต์ที่มีคราบสกปรกติดแน่น จึงต้องการการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่มากเป็นพิเศษ”
ด้านคุณวีธรา ตระกูลบุญ กรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาด ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า เชลล์คาดการณ์ว่ารถกลุ่มที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ จึงได้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ Flexi Molecule (เฟล็กซี่โมเลกุล) ช่วยป้องกัน การสึกหรอได้ดีขึ้น 40%** ผสานกับสารพิเศษ Active Seal Conditioning (แอคทีฟซีลคอนดิชันนิ่ง) ใน เชลล์ เฮลิกส์ ไฮไมล์เลจ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ให้การปกป้องซีลและการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง ส่วน เชลล์ เฮลิกส์ ไฮไมล์เลจ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลนั้น มาพร้อมกับค่าความหนืดเบอร์ 50 ช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้งานหนัก เหมาะกับรถที่ใช้ในการขนส่ง การขับขี่ขึ้นทางลาดชัน ช่วยรักษาแรงอัดของเครื่องยนต์ให้มีกำลังเพื่อการขับขี่ที่ดีขึ้น และลดอัตราการเล็ดลอดของน้ำมันเครื่องเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ลดการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง เชลล์ เฮลิกส์ ไฮไมล์เลจ เป็นแบรนด์เดียวที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดการเดินทาง เราตั้งเป้าเพิ่มยอดขายน้ำมันเครื่องกลุ่มพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น 50% ภายในสิ้นปีนี้
“โอกาสครบรอบ 125 ปีของเชลล์ประเทศไทย การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเชลล์ที่สรรหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงมามอบให้ลูกค้าชาวไทยทุกกลุ่มและได้เตรียมการทำตลาดแบบ 360 องศาเพื่อสร้างความรับรู้ในวงกว้างสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยใช้ทั้งสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งทางช่องทางการจัดจำหน่าย ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกส์ พลัส ในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ครบวงจรแอค และร้านจำหน่ายน้ำมันเครื่องที่ร่วมรายการทั่วประเทศ”
*จากรายงาน Kline & Company 2016
**ตามผลการทดสอบเครื่องยนต์ Sequence IVA โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเครื่องมาตรฐาน API SN และผลการทดสอบเครื่องยนต์ OM646LA โดยเปรียบเทียบกับน้ำมันเครื่องมาตรฐานACEA A3/B4
