ท่ามกลางกระแสเทรนด์ดิจิทัลโหมกระหน่ำวิถีธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในสังคมมากขึ้น เป็นอานิสงส์เบิกทางให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคพุ่งทะยานสูงตามเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ร้อนแรงและเบ่งบานต่อเนื่อง โดยมูลค่ารวมตลาดเมื่อปีที่แล้วอยูที่ 4.8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตพุ่งกว่า 12 % เป็นแรงดีดส่งต่อความรุ่งโรจน์ให้ธุรกิจบริการขนส่งด่วนในประเทศยิ่งทวีเติบโตตามไปด้วย
แม้แต่เดิมธุรกิจบริการขนส่งพัสดุเมืองไทยจะถูกผูกขาดโดยขาใหญ่อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” แต่เมื่อตลาดโตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ก็ยิ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้เล่นรายใหม่ ทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ หรือรายใหญ่-ย่อยสายพันธุ์ไทยกระโจนร่วมวงไพบูลย์แข่งขันหวังแบ่งสัดส่วนตลาดเป็นพรวน ส่งผลให้ธุรกิจบริการส่งพัสดุมีอัตราการแข่งขันดุเดือดเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น
เมื่อการไหล่บ่าของผู้เล่นรายใหม่มากขึ้นผู้เล่นรายเก่าย่อมไม่อาจลำพองตัวเองและกุมความได้เปรียบได้อีกต่อไป เพราะรายใหม่มาพร้อมกับขุมกำลังเต็มพิกัด ทั้งกำลังทุน บุคลากร เทคโนโลยีทันสมัย และการบริหารจัดการแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ของผู้คนยุคโซเชียลครองเมือง ซึ่งเน้นและต้องการมิติ“รวดเร็วทันใจ”ไร้ข้อจำกัดเป็นที่ตั้ง
SCG จับมือ “ยามาโตะ เอเชีย” จากญีปุ่นเปิดตัว “เอสซีจี เอ็กซ์เพรส”
ประเดิมด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “เอสซีจี“ ใส่เกียร์เดินหน้ารุกตลาดบริการส่งด่วน ผนึกพันธมิตร “ยามาโตะ เอเชีย” ผู้นำตลาดการขนส่งพัสดุย่อยจากแดนปลาดิบ ทุ่มงบ 633 ล้านบาท เปิดตัวธุรกิจขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน “เอสซีจี เอ็กซ์เพรส” (SCG EXPRESS) ภายใต้แนวคิด “Deliver Your Happiness” ตอบเทรนด์อีคอมเมิร์ซ ชูจุดเด่นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้แนวคิดส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและเอาใจใส่ ดูแลรับส่งพัสดุประดุจแม่แมวเอาใจใส่ดูแลลูกแมว
โดยนายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ฉายภาพความร่วมมือกันในครั้งนี้ว่าเป็นการผสานความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและคุณภาพของ “เอสซีจี” เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจขนส่งพัสดุย่อยของ “ยามาโตะ เอเชีย” ที่ได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากผู้บริโภคในญี่ปุ่น โดยได้ร่วมกันวิจัยตลาดและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทยกว่า 2 ปี เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการส่งมอบบริการที่ตอบความต้องการของตลาดและผู้บริโภค และช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการขนส่งสินค้าในประเทศไทย
“นำร่องให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรสแห่งแรกที่บางซื่อ บริการส่งพัสดุผ่านศูนย์บริการฯ หรือใช้บริการรับพัสดุถึงบ้าน (Pick up Service) ผ่านคอลเซ็นเตอร์ อีกทั้งยังใช้บริการผ่านเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น SCG EXPRESS ทั้งระบบ IOS และ Android โดยเราจะเดินหน้าสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ช (B2C) กลุ่มผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และประชาชนทั่วไป (C2C) โดยจะเน้นสื่อสารถึงจุดเด่นด้านคุณภาพและความเอาใจใส่ในการให้บริการ ที่ต้องการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ตลอดจนความพร้อมของทีมพนักงานขนส่งสินค้าที่มีจำนวนกว่า 130 คน ซึ่งสามารถรองรับการขนส่งพัสดุได้สูงสุด 5,000 กล่อง/วัน”
นอกจากนี้ นายนิธิ ระบุเพิ่มเติมว่าเราตั้งเป้าเปิดจุดให้บริการรับส่งพัสดุเพิ่มเป็น 110 สาขา ภายในปี 2560 ทั้งในรูปแบบศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) ซึ่งมี 4 รูปแบบบริการให้เลือก ได้แก่ บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้าน บริการรับพัสดุถึงบ้านลูกค้า และจัดส่งถึงปลายทางในวันถัดไป, บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท บริการเก็บเงิน ซึ่งสามารถเลือกชำระได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต และเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่มีบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ จัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้รับ
ลาล่ามูฟ ทดลองบริการใหม่ “ส่งด่วนวันเดียว สะดวก ปลอดภัย”
ขณะที่ “ลาล่ามูฟ” แอพพลิเคชั่นส่งของสัญชาติฮ่องกง เผยอัตราการเติบโตตลาดในไทยพุ่งเกาะเทรนด์อีคอมเมิร์ซโต กางแผนขยายพื้นที่บริการ-ทดลองบริการใหม่ “รับส่งของภายใน 1 วัน ” ยกระดับแข่งรายใหญ่ เจาะลูกค้าธุรกิจ-องค์กร ตั้งเป้ารายได้ขยับ 600% โดยนายสันทิต จีรวงศ์ไกรสร ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค ฝ่ายดำเนินงาน ลาล่ามูฟ แอพพลิเคชั่นรับส่งของจากฮ่องกง สะท้อนมุมมองต่อธุรกิจบริการส่งด่วนว่าตลาดแอพพลิเคชั่นให้บริการรับส่งของอยู่ในขั้นเติบโตเร็วตามทิศทางขยายตัวของอีคอมเมิร์ซที่ปัจจุบันในไทยโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี และการปรับตัวของผู้ใช้ที่รู้จักการเรียกใช้บริการต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นมากขึ้น ขณะที่กรุงเทพฯยังเป็นเมืองที่เติบโตสูงที่สุดของลาล่ามูฟในภูมิภาคนี้ คาดไม่เกินไตรมาสแรกของปีนี้เราจะเป็นเมืองที่ลาล่ามูฟทำกำไรได้เป็นเมืองแรกของภูมิภาค
“บริษัทเตรียมแผนขยายธุรกิจหลังได้รับเงินระดมทุนเพิ่มรอบล่าสุดซีรีส์บีอีก 30 ล้านดอลลาร์ รวมมูลค่าระดมทุนทั้งหมดแล้ว 60 ล้านดอลลาร์ เบื้องต้นเตรียมขยายพื้นที่บริการครอบคลุมมากขึ้นหรือ 100 เมืองใน 10 ประเทศภายในปีนี้ จากปัจจุบันให้บริการแล้ว 5 เมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไทเป,มะนิลา และกรุงเทพ) และอีก 40 เมืองในจีน นับตั้งแต่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2556”
นอกจากนี้ นายสันทิต กล่าวอีกว่าเรายังเตรียมทดลองบริการใหม่ “รับส่งของภายใน 1 วัน ” และระบบกระจายสินค้าแบบดิสทริบิวชั่น จากเดิมให้บริการเฉพาะรับส่งแบบออนดีมานด์ หรือส่งด่วนภายใน 1 ชั่วโมง โดยจะเริ่มทดลองระบบในกรุงเทพเป็นที่แรก เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของลาล่ามูฟปัจจุบัน (ไม่รวมจีน)
“เราเป็นเบอร์หนึ่งในแง่การส่งแบบออนดีมานด์ ส่งเร็วที่สุดใน 1 ชั่วโมง ที่ยังไม่มีใครทำได้ โดยมีบริการที่แตกต่างจากรายอื่นๆ คือ จัดส่งเร็วหรือรวมเวลาตั้งแต่รับของไปจนถึงส่งของถึงมือผู้รับได้เร็วสุดใน 1 ชั่วโมง ใช้งานง่ายผ่านแอพพลิเคชั่น และความน่าเชื่อถือ และราคาสมเหตุสมผล หรือเริ่มต้นที่ 48 บาท และคิดเพิ่มกิโลเมตรละ 7.2 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ทั่วไป และใช้เรียกจากแอพพลิเคชั่น เป็นกลุ่มที่คุ้นเคยการใช้เทคโนโลยี แผนต่อไป คือ จะขยายสเกลระดับใหญ่ขึ้น เจาะลูกค้าธุรกิจ หรือองค์กรขนาดใหญ่ เช่น อีคอมเมิร์ซ หรือผู้ประกอบธุรกิจที่ให้เราเป็นช่องทางรับส่งสินค้าให้ ภายในปีนี้เราตั้งเป้าหมายเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 6 เท่า จากการเปิดตัวบริการใหม่และพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะขยายบริการเมืองอื่นๆในไทยเร็วๆ นี้”
บลู แอนด์ ไวท์ ขนส่งสายพันธุ์ไทยเพื่อคนไทย
ฟากฝั่งกลุ่มบริษัท บลู แอนด์ ไวท์ บริษัทขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์สายพันธุ์ไทยแท้ โดยนายสัญญวิทย์ เศรษฐโภคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู แอนด์ ไวท์ โลจิสติกส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ว่าปัจจุบันธุรกิจ E–Commerce เริ่มมาแรง ทางบริษัทฯ ก็ต้องปรับตัวรับมือ โดยวิธีการดำเนินงานก็คือจะรับ-ส่งสินค้าทุกประเภท ทั้งที่ติดต่อซื้อ-ขายกันทางออนไลน์ การสั่งซื้อสินค้าตามจุดขายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้การซื้อสินค้าในรูปแบบนี้เริ่มมีแพร่หลายเป็นอย่างมาก ทางบลู แอนด์ ไวท์ฯ จึงต้องปรับกลยุทธ์การขนส่งเพื่อขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้ซื้อโดยตรง
“หลังจากที่เราเปิดบริการบลู แอนด์ ไวท์ Express มาได้ไม่นานก็พบว่าลูกค้าที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เรามีความพร้อมในการบริหารจัดการในบริการนี้ทั้งรถ คน และเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่สั่งสินค้าแล้วอยากได้รับในเวลาที่รวดเร็ว และเรายังเดินหน้า ขยายกลุ่มลูกค้าออกไปให้ได้มากสุดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเราสามารถทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะมีเพื่อนพันธมิตรขนส่งอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศอยู่แล้ว ถือว่าเป็นเป็นการช่วยให้บริษัทขนส่ง ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ สามารถอยู่รอดได้อีกด้วย เพราะปัจจุบันบริษัทขนส่งต่างชาติได้เข้ามาแย่งตลาดในเมืองไทยเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว เราเองเป็นบริษัทขนส่งสายพันธ์ไทยแท้ก็ต้องเกื้อหนุนบริษัทขนส่งไทยให้อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไปให้นานเท่านาน”
ไปรษณีย์ไทย ดิ้นสู้ขยายบริการถึง 20.00 น.
ขณะที่ไปรษณีย์ไทย ที่ล่าสุดได้ปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการขยายเวลาให้บริการไปรษณีย์ถึง 20.00 น. ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ เริ่มนำร่องให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัด และอำเภอขนาดใหญ่ โดยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ใช้บริการได้ที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ท่าอากาศยาน เคาน์เตอร์ให้บริการไปรษณีย์ในศูนย์การค้า สามารถใช้บริการได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ สามเสนใน จตุจักร ลาดพร้าว คลองจั่น หัวหมาก เซ็นทรัลซิตี้บางนา เซ็นทรัลพระราม 2 เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ซีคอนสแควร์ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เมกะ บางนา เดอะมอลล์นครราชสีมา Asawann Shopping Complex 1 กาดสวนแก้ว จีซีเอสเชียงใหม่ เป็นต้น โดยกำลังเร่งขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศในลำดับถัดไป
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข่าวหลุดรอดจากภายในไปรษณีย์ไทยฯด้วยว่านอกเหนือจากการปรับตัวตามเวลาเปิด-ปิดของสาขาใหญ่ๆ ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากแล้ว ระยะหลังไปรษณีย์ไทยฯเองมีความพยายามปรับตัวกันขนานใหญ่ อีกทั้ง ยังมีการอบรมภายในบ่อยครั้งขึ้น และช่วงกลางปีนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบขนานใหญ่ เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี พร้อมรับมือเอกชนที่เข้ามาสู่สมรภูมิการแข่งขันเรื่องการขนส่ง
นี้แค่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่หมายรวมถึงผู้เล่นรายอื่นๆทั้งในและต่างประเทศที่ทุนหนาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดตามเทรนด์ตลาดอีคอมเมิร์ซเบ่งบาน ไม่ว่าจะเป็น 7-11, นิ่มซี่เส็ง, สตู๊ตตาร์,แกร็บไบค์,รัชไบค์ ลาซาด้า DHL เป็นต้น ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็งัดทีเด็ดหวังเรียกความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และที่สำคัญเป็นการตั้งธงการตลาดพุ่งชนสัดส่วนตลาดนับหมื่นล้านบาทที่นับวันยิ่งโตไม่หยุดฉุดไม่อยู่
เมื่อมูลค่าการตลาดยิ่งเติบโตแบบฉุดไม่อยู่ เค้กก็ยิ่งก้อนโตมากขึ้นก็ยิ่งเป็นการเรียกแขกรายใหม่ร่วมเปิดศึกแข่งกับธุรกิจนี้ ไปรษณีย์ไทยฯต้องลุกขึ้นสำรวจตัวเองและเร่งปรับการบริการเป็นการด่วน เพราะหากขืนยังย่ำอยู่กับที่พลางลำพองตัวเองว่ายังไงก็นอนมา คลื่นลูกใหม่ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในยุคนี้สมัยนี้พร้อมจะเขย่าให้เสียอาการได้ทุกเวลา