ทล.อัปเดตผลกระทบพายุขนุนในพื้นที่ จ.น่าน-ตาก ยังไม่ผ่านได้ 3 เส้นทาง

0
31

กรมทางหลวงรายงานสถานการณ์น้ำท่วม / ดินสไลด์บนทางหลวง พื้นที่ จ.น่าน และ จ.ตาก ยังผ่านไม่ได้ 3 แห่ง แนะเลี่ยงใช้เส้นทางและเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์น้ำท่วม / ดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง ผลกระทบจากพายุโซนร้อนกำลังแรง “ขนุน” สถานการณ์ประจำวันที่ 9 สิงหาคม  2566 เวลา 14.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม / ดินสไลด์ ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่านและจังหวัดตาก จำนวน 3 สายทาง 4 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง ดังนี้

1. จังหวัดน่าน จำนวน 1 แห่ง ได้แก่

 – ทางหลวงหมายเลข 1256 ตอน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา – บ่อเกลือ ในพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ ช่วง กม.ที่ 34+495 – 34+540 ดินสไลด์ปิดทับผิวทาง 2 ช่องจราจร แนะนำเส้นทางเลี่ยงไปอำเภอบ่อเกลือ ใช้เส้นทาง ทล.1081 อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะผ่านได้วันที่ 10 ส.ค. 66 เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

2. จังหวัดตาก จำนวน 2 แห่ง ได้แก่

   – ทางหลวงหมายเลข 105 ตอน แม่สลิดหลวง – แม่เงา ในพื้นที่ อำเภอท่าสองยาง ช่วง กม.ที่ 139+000 – 139+100 ผิวทางและโครงสร้างทางชำรุดเสียหาย ไม่มีเส้นทางทดแทน ได้ดำเนินการตัดขยายคันทางด้านซ้ายทางซึ่งเป็นลาดเชิงเขา เพื่อก่อสร้างทางเบี่ยงประมาณ 2.5 – 3 เมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการทำทางเบี่ยง เพื่อให้รถขนาดเล็กสัญจรได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ (9 ส.ค. 66)  พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

  – ทางหลวงหมายเลข 105 ตอน แม่สลิดหลวง – แม่เงา ในพื้นที่ อำเภอท่าสองยาง ช่วง กม.ที่ 122+200 – 122+300 ฝนตกหนักทำให้น้ำไหลระบายไม่ทัน จึงทำให้น้ำไหลท่วมผิวจราจร ระดับน้ำ 50 ซม. พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเผ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ www.doh.go.th หรือ ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1