ทวนเข็มนาฬิกาไปเมื่อปี 2556 ที่ยูดี ทรัคส์ รถบรรทุกพันธุ์แกร่งจากแดนซามูไรได้เปิดตัวรุ่น”UD Quester”ให้สิงห์รถบรรทุกเมืองไทยและทั่วโลกได้ยลโฉมพร้อมขับเคี่ยวกลยุทธ์การตลาดในสมรภูมิรถบรรทุกจนสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการขนส่ง อีกทั้งยังประสบความสำเร็จด้านยอดขายดีขึ้นต่อเนื่อง
ถัดจากนั้นไม่นานก็เกิดคำถามตลอดว่าเมื่อไหร่ยูดี ทรัคส์จะปล่อยรถบรรทุกขนาดกลางเข้าร่วมประกวดศักยภาพในตลาดกับค่ายอื่นๆบ้างซักที ทั้งที่ตลาดในเซกเม้นต์นี้มีมูลค่าการตลาดพุ่งกระฉูดไม่แพ้เซกเม้นต์อื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พี่ใหญ่และพี่รองจากแดนปลาดิบด้วยกันจะเปิดฟรอร์เซิ้งการตลาดกันฝุ่นตลบ
และวันนั้นก็มาถึงเมื่อล่าสุด ( 1 มี.ค.2560 ) ยูดี ทรัคส์ ได้ฤกษ์เปิดตัวรถบรรทุกขนาดกลางรุ่นใหม่ชื่อ “Croner” ที่สืบสานตำนานของญี่ปุ่นในขบวนการผลิต “รถบรรทุกที่โลกทุกวันนี้ต้องการ” ถือเป็นน้องชายสุดหล่อของรุ่น Quester ที่ถูกพัฒนามาเพื่อตลาดที่กำลังเบ่งบานสุดขีดโดยเฉพาะ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความเป็นยูดี ทรัคส์ที่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ประหยัดเชื้อเพลิง ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบเพื่อเพิ่มผลกำไรและทำเวลาวิ่งงานที่เหนือกว่า ภายใต้ชื่อ “Croner”ที่ตั้งตามชื่อเทพเจ้าแห่งเวลาจากนิยายกรีก ที่พร้อมเจาะความคุ้มค่าการใช้งานในทุกนาที โชว์เหนือระดับจาก 3 ความเป็นเลิศ ‘ดีเอ็นเอแข็งแกร่งยูดี ทรัคส์ ความชำนาญการผลิตของชาวญี่ปุ่น และเทคโนโลยีระดับโลกสายพันธุ์สวีเดนจากวอลโว่ กรุ๊ป’ ผนวกเข้าด้วยกันแล้วมัดรวมกับกระบวนการผลิตและการใช้ชิ้นส่วนคุณภาพในประเทศ ตอกย้ำความเชื่อมั่นงานบริการหลังการขายด้วยการบริการที่ได้มาตรฐานจากทีมงานมืออาชีพ พร้อมยึดไทยฐานผลิตขายในประเทศและส่งออกขายทั่วโลก
แข็งแกร่ง คงทน เพิ่มผลกำไรและระยะเวลาวิ่งงานที่เหนือกว่า
มร.ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ Volvo Group Trucks Asia & JVs Sales เปิดเผยว่าด้วยแนวคิดง่ายๆ ในเรื่องของการประหยัดเวลาและสามารถวางใจได้ และด้วยความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าแต่ละธุรกิจ โครเนอร์จึงได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าก้าวนำคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา โดยการสร้างโครเนอร์ให้เหมาะกับการใช้งานขนส่งที่หลากหลายรูปแบบ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนคุณภาพสูงที่แข็งแกร่งและคงทน เพื่อเพิ่มผลกำไรและระยะเวลาวิ่งงานที่เหนือกว่า
“ยูดี ทรัคส์ เชื่อว่าหากรถบรรทุกมีเวลาวิ่งอยู่บนท้องถนนนานขึ้นและเสียเวลาอยู่ในศูนย์บริการน้อยลง ธุรกิจของลูกค้าจะยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นตามไปด้วย เป้าหมายของเราจึงเป็นการใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด โดยมุ่งในการเพิ่มผลกำไรและลดเวลาจอดซ่อมบำรุงให้น้อยที่สุดในทุกครั้งที่นำรถบรรทุกออกไปวิ่งงาน”
ส่วนจุดเด่นและความเหนือชั้นนั้น มร.ฌาคส์ ให้ข้อมูลว่า ความเหนือระดับของ โครเนอร์ เป็นผลมาจาก 3 ความเป็นเลิศผนวกเข้าด้วยกัน นั่นคือ มรดกตกทอดอันแข็งแกร่งของยูดี ทรัคส์ และความชำนาญระดับสูงในการผลิตของชาวญี่ปุ่น ผสมรวมกับเทคโนโลยีระดับโลกสายพันธุ์สวีเดนจากวอลโว่ กรุ๊ป พร้อมทั้งกระบวนการผลิตและการใช้ชิ้นส่วนคุณภาพในประเทศ ยิ่งกว่านั้น มาตรฐานของยูดี ทรัคส์ในเรื่องของความไว้วางใจได้สูงสุด และจิตวิญญาณแห่งยูดี ทรัคส์ (Gamba Spirit) ที่สอดแทรกอยู่ในทุกชิ้นส่วนของโครเนอร์ยังเป็นผลลัพธ์จากการพัฒนานานหลายปีและการทดสอบอย่างเข้มงวดที่สุด ทั้งหมดนี้เป็นพันธสัญญาที่ยืนยันถึงการส่งมอบคุณภาพจากญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
นอกจานี้ เมื่อปีที่แล้ว วอลโว่ กรุ๊ป ขายยูดี ทรัคส์ ไปทั่วโลก 20,700 คัน เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งยอดขายทั้งหมดของปีที่แล้ว เป็นยอดขายในรุ่นเควสเตอร์ ซึ่งผลิตในประเทศไทย และยังมีอีก 2 รุ่นที่ผลิตในญี่ปุ่นคือควอนและคอนดอร์
ตอกย้ำการใช้งานคุ้มค่า “ไปได้ไกลกว่า”
ขณะที่มร. โนบูฮีโกะ คิชิ รองประธานอาวุโส แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของยูดี ทรัคส์ ให้เหตุผลและที่มาของรถรุ่นนี้ว่า โครเนอร์ ตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งเวลาจากนิยายกรีกปรัมปรา ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถบรรทุกขนาดกลางที่ปฏิบัติงานได้ยอดเยี่ยมในกลุ่มตลาดที่กำลังเติบโต โดยมีให้เลือก 3 รุ่น: MKE, LKE และ PKE (ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ); แตกต่างกันตามน้ำหนักบรรทุกรวม (GVW) และระยะฐานล้อที่หลากหลาย นำเสนอรูปแบบที่ต่างกันได้มากถึง 21 รูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม อีกยังมีอุปกรณ์เผื่อเลือก (option) เป็นช่วงล่างถุงลมเพื่อปกป้องสินค้าไม่ให้เสียหายขณะขับขี่บนเส้นทางขรุขระ
“เนื่องจากพนักงานขับรถต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน พวกเราที่ยูดี ทรัคส์จึงต้องคิดค้นหาทางปิดทุกจุดอ่อนที่อาจจะส่งผลต่อความปลอดภัยและการขับขี่ เราได้ติดตั้งอุปกรณ์ในระบบเบรกและการควบคุมรถที่เหนือกว่า เพื่อช่วยให้ทั้งพนักงานขับรถและตัวรถอยู่ในสภาพที่พร้อมทำงานที่สุด ในด้านการขับขี่ ระบบเกียร์อัตโนมัติที่เป็นอุปกรณ์เผื่อเลือกในโครเนอร์จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในหลายๆ ประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานขับรถอย่างหนัก เนื่องจากพนักงานขับรถต้องรับมือกับความเหนื่อยล้าอย่างมากในการขนส่งทางไกล โครเนอร์จะช่วยให้ลูกค้าดึงดูดพนักงานขับรถให้เข้ามาร่วมงานมากขึ้น เพราะเกียร์อัตโนมัติจะผ่อนแรงคนขับลงไปได้มาก และลดความเหนื่อยล้าให้กับนักขับทั้งหน้าใหม่และเก่า”
มร.คิชิ กล่าวเสริมว่าในเอเชียก็เช่นเดียวกัน เกียร์อัตโนมัติจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมรถบรรทุก เพราะมันช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาจอดซ่อมลงไป ในระยะยาวแล้วเกียร์ธรรมดามีโอกาสสึกหรอสูงกว่าโดยเฉพาะที่ตัวคลัตช์
“สมรรถนะการวิ่งงานที่ยาวนานกว่าของโครเนอร์เป็นผลมาจากการเลือกใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ที่มีความแข็งแรงและลงตัว อาทิ ระบบขับเคลื่อน และเฟรมคัสซีใหม่ที่ทนทานกว่าเดิม ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการเข้ารับบริการแต่ละครั้งให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งพัฒนาอัตราสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงที่เป็นปัจจัยสำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง”
นอกจากนี้ โครเนอร์เป็นรถบรรทุกที่ประหยัดเชื้อเพลิงสูงที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่เราเคยผลิตออกมา มันใช้เชื้อเพลิงทุกหยดได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เป็นผลพลอยได้จากเครื่องยนต์ใหม่ตระกูล GHE ระบบเกียร์อัตโนมัติ ระบบแนะนำการใช้เชื้อเพลิง และหัวเก๋งที่สามารถลดสัมประสิทธิ์แรงต้านทานลม (CD) ลงไปได้ถึง 5%
ดังนั้น “ไปได้ไกลกว่า” เป็นคำมั่นสัญญาของแบรนด์ยูดี ทรัคส์ ที่เน้นเป็นพิเศษในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิง เพิ่มเวลาวิ่งงาน ความไว้วางใจได้ และคุณภาพของการขับขี่ ในขณะเดียวกันต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ยูดี ทรัคส์จึงพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการต่างๆ ที่เป็นเลิศ
บริการสนับสนุน (Extra Mile Support)
ด้านนายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการวอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวถึงงานบริการหลังการขายว่า ยูดี ทรัคส์ภูมิใจกับการพัฒนาการให้บริการหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริการคุณภาพ และอะไหล่แท้จากยูดี หลักสูตรฝึกอบรมพนักงานขับรถ และสัญญาบริการยูดี ทรัสต์ ที่ล้วนมีเป้าหมายเพื่อทำให้รถบรรทุกอย่าง โครเนอร์ สามารถวิ่งงานได้ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดตลอดเวลา ทำให้รถบรรทุกสายพันธุ์ซามูไรอย่างยูดี ทรัคส์ สามารถไปได้ไกลกว่าเดิมและช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาได้เป็นนาที ชั่วโมง และเป็นวันๆ และผ่านพ้นเป็นปี
“นอกจากบริการต่างๆ แล้ว ยูดี ทรัคส์ยังภูมิใจเสนอโซลูชั่นระบบเทเลเมติกส์ติดตามรถอย่างมืออาชีพ ที่จะช่วยให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลและรายงานต่างๆแบบเรียลไทม์เพื่อนำมาบริหารจัดการและปรับปรุงการทำงานของฟลีทรถได้อย่างต่อเนื่อง การเชื่อมต่อข้อมูลรถบรรทุกไปยังศูนย์บริการ ทำให้เราสามารถมอบความช่วยเหลือเชิงป้องกันและมอบบริการต่างๆ แก่ลูกค้าได้อย่างไม่ขาดตอน”
และที่สำคัญ โครเนอร์ ผลิตขึ้นที่โรงงานยูดี ทรัคส์ ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่กำลังเติบโตทั้งในเอเชีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ เราเชื่อว่าด้วยความสมบูรณ์แบบของ โครเนอร์ จะสามารถตอบทุกโจทย์ด้านการขนส่งทุกรูปแบบ และพร้อมจะสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานจากผู้ใช้ทั่วโลกได้แน่นอน
อย่างไรก็ดี นายกำลาภ สรุปในตอนท้ายว่าเราเชื่อมั่นว่าโครเนอร์ จะได้รับการยอมรับจากตลาด โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนส่งที่มีความต้องการใช้รถบรรทุกหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของการพัฒนาและออกแบบของโครเนอร์ โดยการแนะนำโครเนอร์ในตลาดรถบรรทุกขนาดกลางนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งปัจจุบันและลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการรถบรรทุกขนาดเล็กลงเพื่อให้เหมะกับความต้องการใช้งานในสภาพงานต่างๆ
“เมื่อปีที่แล้ว ตลาดรถบรรทุกรวมมียอดขายประมาณ 18,000 คัน เป็นรถบรรทุกขนาดกลางประมาณ 7,000 คัน เราหวังว่าการแนะนำโครเนอร์เข้าสู่ตลาดครั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกระตุ้นให้ตลาดรถบรรทุกมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น และเป็นที่น่ายินดีเมื่อปีที่แล้ว ยูดี ทรัคส์ มียอดขายที่ 800 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 56% ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของยูดี ทรัคส์ ในตลาดรถบรรทุกเพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในปี 2558 ขยับมาเป็น 4.1% ในปีที่แล้ว”