นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดว่าประชาชนจำนวนมากได้มีการวางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆทำให้ถนนหลายสายมีปริมาณการจราจรหนาแน่น หากผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงในขณะขับรถ ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์การใช้รถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้มีความปลอดภัย
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหน่วยงานที่พัฒนาและส่งเสริมระบบการขนส่งทางถนนและการใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัย จึงขอแนะนำข้อควรปฏิบัติเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้
ไม่ขับเร็ว ไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และระยะในการมองเห็นเส้นทาง
เมาไม่ขับ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท จำพวกยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการขับรถลดน้อยลง
โทรไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถไม่ว่าจะเป็นการกดรับโทรศัพท์หรือการพิมพ์ข้อความ เนื่องจากทำให้เหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียวและต้องละสายตาจากเส้นทาง ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ หากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ อาทิ หูฟัง บลูทูธ หรือจอดรถคุยในบริเวณที่ปลอดภัย
ง่วงไม่ขับ ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง รวมถึงในเส้นทางตรงที่มีระยะทางไกลหลายกิโลเมตร อาจทำให้ผู้ขับขี่เกิดความอ่อนล้าและง่วงได้ ต้องระวังการ “หลับใน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีคนขับรถคนเดียวต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ผู้ขับรถหยุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง ในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ หรือพักหลับ 10 – 15 นาที ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันการหลับใน
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ด้วยรถกระบะ และรถ