สแกนเนีย พัฒนาและทดสอบนวัตกรรมแห่งอนาคตเพื่อการขนส่งอย่างยั่งยืน “สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง”นวัตกรรมใหม่ระบบควบคุมการขับขี่และเชื่อมต่อขบวนรถบรรทุกแบบต่อเนื่องด้วยระบบการ 5G ครั้งแรกของโลก
การเกิดขึ้นของนวัตกรรมและเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายและอินเตอร์เน็ตนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงโลก ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งล่าสุด สแกนเนีย ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีรถขนาดใหญ่เพื่อการพาณิชย์จากประเทศ สวีเดน ได้พัฒนาและทำการทดสอบนวัตกรรมใหม่ สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง (Scania Platooning)ซึ่งเป็นการควบคุมการขับขี่ที่เชื่อมต่อเป็นรูปขบวนรถบรรทุกแบบต่อเนื่องผ่านเทคโนโลยีสัญญาณ 5G
โดยแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยี สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง นั้น เกิดจากนโยบายสำคัญของ สแกนเนีย ที่ต้องการค้นคว้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการขนส่งอย่างยั่งยืน ทั้งการช่วยลดมลพิษในอากาศที่เกิดขึ้นจากการขนส่ง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสังคมโลก ซึ่งในทุกปีจะมีผู้เสียชีวิตจากกอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงถึง 1.3 ล้านคน และ 95% ของอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นจากมนุษย์
สำหรับหลักการทำงานของเทคโนโลยี สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง นั้น จะใช้การเชื่อมต่อขบวนรถด้วยระบบการสื่อสารแบบไรสายผ่านเทคโนโลยี 5G ทำให้สามารถขับขี่รถเป็นขบวนด้วยระบบอัตโนมัติช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยบังคับทิศทาง เส้นทางการเดินทาง ความเร็ว การออกตัวและหยุดรถ โดยเมื่อผู้ขับขี่รถนำขบวนรถออกคำสั่งระบบก็จะทำการสื่อสารไปยังรถขบวนให้ปฏิบัติตาม หรือ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับรถในขบวน ระบบก็จะทำการส่งสัญญาณไปยังรถทั้งหมดได้รับทราบและปฏิบัติตามคำสั่งของรถนำขบวน
นอกจากนั้นยังมีระบบ Senor Fusion ซึ่งเป็นเรดาร์และกล้องติดตั้งอยู่กับรถ เพื่อนำสภาพแวดล้อมมาวิเคราะห์และประมวลผลการทำงาน โดยบางครั้งระบบเรดาห์และกล้องก็สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้มากกว่ามนุษย์ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที รวมถึงระบบ AI ในรถยังสามารถพัฒนาให้สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และ ปฏิบัติงานให้ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในขั้นต่อไป
เทคโนโลยี สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง ส่งผลประโยชน์ให้ต่อการขนส่งอย่างยั่งยืนในหลายด้าน ซึ่งการวิ่งเป็นขบวนรถช่วยลดแรงต้านอากาศทำให้ประหยัดน้ำมันลงได้ถึง 12% ช่วยลดต้นทุกการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งลดมลพิษสู่อากาศน้อยลงด้วย นอกจากนั้น การวิ่งเป็นขบวนมีการเว้นระยะห่างระหว่างรถที่พอเหมาะ จึงช่วยลดความแออัดบนท้องถนน และ สำคัญที่สุดคือในเรื่องของความปลอดภัยเพราะเทคโนโลยีอัตโนมัติเหล่านี้ จะช่วยลดข้อผิดพลาดอันอาจเกิดขึ้นจากมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนการวิจัยและการพัฒนานั้น สแกนเนีย ได้ประกาศความร่วมมือกับ อิริคสัน (Ericsson) ในงาน World Congress in Barcelonaเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อทำการวิจัยร่วมกัน ซึ่ง อิริคสัน จะทำการวิจัยในเรื่องการเชื่อมต่อของรถบนระบบ 5G ส่วน สแกนเนีย จะพัฒนาเทคโนโลยีของรถให้สามารถปฏิบัติงานและเชื่อมต่อเข้าหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด สแกนเนีย ได้มีการทดสอบ สแกนเนีย พลาทูนนิ่ง ในการใช้งานจริงที่ประเทศสิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการวิ่งทดสอบระหว่างท่าเรือในประเทศสิงคโปร์บนท้องถนนและการบรรทุกน้ำหนักจริง
สำหรับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานจริงโดยทั่วไปนั้น ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการทั้งในเรื่องความพร้อมต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้โดยทั่วไปได้ในบางประเทศหลังปี พ.ศ.2563 ทั้งนี้ สแกนเนียยังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมรูปแบบต่างๆ อีกมากมายเพื่อขับเคลื่อนผลกำไรธุรกิจไปพร้อมๆ กับการขนส่งอย่างยั่งยืน