ดีอีเอส – ไปรษณีย์ไทย ผนึก 50 องค์กรชั้นนำเดินหน้าสู่ ESG

0
36

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG ดึง 50 หน่วยงานในตลาดทุน องค์กรรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐ ฯลฯ ร่วมงาน ESG Day : Networking for Sustainable Growth “เครือข่ายสู่การเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อคนไทย” เพื่อร่วมกันออกแบบแชร์กลยุทธ์แนวทางด้าน ESG ที่เป็นรูปธรรมสำหรับประเทศไทย โดยไปรษณีย์ไทยได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ ESG ครอบคลุมทุกมิติ เช่น การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า การนำดิจิทัลมาใช้ลดภาระด้านเอกสารด้วยแอปพลิเคชัน Prompt Post รวมทั้งการยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เป็นตัวกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชน พยายามร่วมมือกันยกระดับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของโลกในทิศทางที่ดีขึ้นและเกื้อกูลกันในทุกมิติ และทำให้แนวคิด ESG หรือ Environment Social and Government เป็นเครื่องมือหนึ่งที่หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนให้ความสำคัญ โดย ESG เป็นแนวคิด เพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนคำนึงถึง 3 มิติ คือ  สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด นำแนวคิด ESG มาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งไปรษณีย์ไทย หนึ่งในหน่วยงานสำคัญในสังกัด มีภารกิจหลักในยุคเทคโนโลยีดิจิทัลที่ต้องอำนวยความสะดวกคนไทยอย่างทั่วถึง และเท่าเทียมกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ควบคู่กับการใส่ใทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม โดยไปรษณีย์ไทยได้มุ่งเน้นส่งเสริมการนำดิจิทัลมาใช้

ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม เช่น การลดความสิ้นเปลืองในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ผ่านระบบการดำเนินงานเอกสารดิจิทัล Digital Post ID มิติสังคม เช่น การขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการของไปรษณีย์ไทยได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม EMS Point มิติธรรมาภิบาล กับการผลักดันหน่วยงานให้เป็นต้นแบบความโปร่งใส และส่งเสริมให้มีเทคโนโลยีดิจิทัลที่นำไปใช้กับการดำเนินงานได้ทุกขั้นตอน  และในปีนี้กระทรวงฯ ได้กำหนดให้แผนงานนี้ เป็นส่วนงานที่จะต้องสานต่ออย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นประเทศที่ก้าวหน้าด้วยดิจิทัลควบคู่ไปกับความยั่งยืน

ดร.เสรี นนทสูติ กรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม กล่าวว่า การนำกรอบ ESG เป็นเครื่องมือในการพิจารณาความเสี่ยงขององค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจไทยเช่น ไปรษณีย์ไทย สอดคล้องกับทั้งนโยบายของประเทศที่เน้นประเด็น Bio-Circular Green Economy และพันธกรณีและความมุ่งมั่นของประเทศไทย ในการเสริมสร้างหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

ทั้งนี้ การนำกรอบ ESG มาใช้ยังต้องดำเนินการควบคู่กับหลักการชี้แนะของสหประชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งเน้นการพิจารณาห่วงโซ่คุณค่าหรือห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain management) และการตรวจสอบผลกระทบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) ด้วย

การจัดงาน ESG Day ของไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้ เป็นกิจกรรม CSR ที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน โดยคาดหวังว่ารัฐวิสาหกิจต่างๆ จะเป็นเจ้าภาพจัดงานลักษณะนี้ในปีต่อๆ ไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน และได้ฝากข้อพิจารณาให้กับรัฐวิสาหกิจในด้าน ESG หลายประการ เช่น การจัดตั้งหน่วยงานภายในที่มีพันธกิจด้าน ESG อย่างชัดเจน การร่วมกันตรวจสอบและกำหนดประเด็นความเสี่ยง ESG ที่มีนัยสำคัญ (Materiality) การจัดทำตัวชี้วัด ESG และการจัดทำรายงานและเปิดเผยข้อมูลที่เป็นระบบและได้มาตรฐาน เป็นต้น

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยอยู่เคียงคู่คนไทยและสังคมไทยมายาวนาน ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเป็นเครือข่ายสู่การเติบโต  ที่ยั่งยืนเพื่อคนไทย โดยล่าสุดนี้ได้เชิญชวนหน่วยงานชั้นนำหลากหลายวงการ อาทิ บริษัทในตลาดทุน องค์กรรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทรัพยากรและประชาชน ฯลฯ มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันแนวทางที่จำเป็นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ESG ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสอันดียิ่งที่จะได้นำเสนอกลยุทธ์หรือแชร์ไอเดียการปรับตัวสู่ ESG และยังทำให้ประเทศไทยมีแนวทางด้าน ESG ที่เป็นรูปธรรม มีหลักการคิดที่ชัดเจน พร้อมทั้งเป็นต้นแบบให้ภาคส่วนอื่น ๆ เปิดรับแนวคิดนี้มากขึ้นในอนาคต

“ในด้านสิ่งแวดล้อมไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญกับการร่วมปฏิญญาลดภาวะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็น 0 ภายในปี 2050 โดยทยอยปรับเปลี่ยนยานยนต์เชื้อเพลิงมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถขนส่งไปรษณีย์ รถตู้ และจักรยานยนต์ เริ่มแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี การลดภาระด้านเอกสารกระดาษ เช่น จดหมาย ทรานสคริปต์ เอกสารสำคัญ มาสู่เอกสารดิจิทัล ด้วยแอปพลิเคชัน Prompt Post – พร้อมโพสต์ การตั้งเป้ารีไซเคิลขยะจากภาคอีคอมเมิร์ซทั้งกล่องพัสดุและซองที่ไม่ใช้แล้วในโครงการ reBOX เพื่อลดปัญหาคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ ปริมาณขยะประเภทกระดาษ (Paper Waste) พร้อมสร้างประโยชน์ให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เพิ่มมากขึ้น และได้นำพลังงานใหม่ ๆ เช่น โซล่าร์ลูฟทอป ติดตั้งที่ ปณ. เป็นต้น”

ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกประเด็นที่มีความสำคัญควบคู่กับสิ่งแวดล้อมคือด้านสังคม ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนการสร้างสังคมที่ดีขึ้นโดยมีแคมเปญเพื่อนแท้ร่วมทาง (Road Safety) ที่บุรุษไปรษณีย์จะเป็นต้นแบบด้านการขับขี่ที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน การสนับสนุนชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ในโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข และการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม Thailandpostmart และไปรษณีย์ทั่วประเทศ มียอดจำหน่ายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการบนเว็บไซต์กว่า 7,000 ราย และมีสินค้ากว่า 10,000 รายการ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมดำเนินส่งเสริมอาชีพให้แก่บุคคลอีกหลากหลายกลุ่มไม่ว่าจะเป็นคนพิการ นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ให้มีโอกาสได้เรียนรู้แนวทางสร้างอาชีพต่อไป และในส่วนของมิติขององค์กร ไปรษณีย์ไทยได้ยึดมั่นเรื่องความโปร่งใส บริหารงานภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน มาตรการต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน เพิ่มขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไปรษณีย์ไทยมุ่งมั่นเป็นพลังโครงข่ายเชื่อมโยงปัจจัยสำคัญของการพัฒนา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย จากคุณค่าของสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และคุณธรรม เพราะเราเชื่อว่าพลังแห่งความสัมพันธ์ที่สมดุล และการส่งมอบคุณค่าการให้บริการ จะนำพาสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th

เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post

ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post

ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel