คค.สานต่อความสำเร็จผลักดันเดินรถโดยสารไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง

0
76

คค.สานต่อความสำเร็จผลักดันเดินรถโดยสารไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง ยกระดับคุณภาพชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งเป้าปี 66ผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดให้บริการเดินรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 3 – 36 ท่าเรือคลองเตย – ท่าเรือภาษีเจริญ สาย 3 – 44 ท่าเรือคลองเตย – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สาย 3 – 55 ท่าเรือคลองเตย – พระราม 7 ภายใต้แนวคิด “Thai Smile Bus Our Love Will Change The World : รักเรารักษ์โลก” พร้อมด้วย นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน โดยมี นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย เขตคลองเตยกรุงเทพมหานคร

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะในการให้บริการประชาชน ส่งเสริมการใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม กระทรวงคมนาคมคมได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการจัดหารถโดยสารพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อนำมาบริการประชาชนให้ได้รับความสะดวก สะอาด ประหยัด ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ สำหรับพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ของปี 2566 เป็นกิจกรรมที่สานต่อความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดบริการรถโดยสารพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ประชาชนด้วยความร่วมมือของกระทรวงคมนาคมและภาคเอกชน โดยตั้งแต่กลางปี 2565 มาจนถึงปัจจุบันได้นำรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ามาให้บริการกับพี่น้องประชาชนกว่า 1,250 คัน ใน 77 เส้นทาง อันเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์ของระบบการขนส่งมวลชนทางถนนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในปี 2566 กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลักดันให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน เพื่อขยายผลการบริการรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพ โดยภาคเอกชนจะมีการพัฒนาคุณภาพบริการเดินหน้าปรับเปลี่ยนรถโดยสารเอกชนจากรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ใน 45 เส้นทาง และเส้นทาง   ที่มีความต้องการใช้บริการสูง ทำให้ภาพรวมภายในปี 2566 จะมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าให้บริการถึง 3,100 คัน คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก 500,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์ ในภาคการขนส่ง สำหรับการเปิดเส้นทางรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 เส้นทาง ในย่าน “คลองเตย” ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีเรื่องราวการตั้งรกรากที่อยู่อาศัยและการค้าขายมาอย่างยาวนาน มีตลาดคลองเตย ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาหลายสิบปี ผ่านการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น รวมไปถึงสตรีทฟู้ดที่มีให้เลือกสรรมากมาย ไม่มีใครในกรุงเทพมหานครที่ไม่รู้จักคลองเตย นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนรถเมล์ที่ให้บริการในย่านนี้มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษฝุ่น PM 2.5 และเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อ ล้อ – ราง – เรือ ให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางไปสู่สถานที่สำคัญ เช่น สวนลุมพินี สถานีรถไฟหัวลำโพง สำเพ็ง วงเวียนใหญ่ ตลาดพลู ท่าเรือภาษีเจริญ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพระราม 7 และตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันนโยบายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปฏิรูปเส้นทางเดินรถให้ พี่น้องประชาชนเดินทางได้สะดวก รวมไปถึงปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนให้เอกชนริเริ่มที่จะนำ รถโดยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะที่ราคาประหยัด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ สำหรับการเดินทางรูปแบบใหม่ในวันนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดทำรูปแบบการชำระค่าโดยสารราคาพิเศษผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตร HOP CARD) เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะรถโดยสารจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 40 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในรูปแบบรถต่อเรือจะคิดค่าโดยสารตามจริงแต่ไม่เกินวันละ 50 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวอีกด้วย

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชม กลุ่ม บริษัท ไทย สมายล์ บัส กรุ๊ป ในฐานะผู้ประกอบการคนไทย ที่มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ พัฒนาบริการที่ดีให้แก่ประชาชน และให้ความสำคัญกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนเข้ามาใช้บริการขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก สบาย สะอาด ปลอดภัย ในราคาที่ประหยัด อันจะช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ปัญหา Climate Change และการจราจรของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมพร้อมจะให้ความร่วมมือและร่วมกันทำงานกับภาคเอกชน  เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดพี่น้องประชาชนต่อไป