ทล.ขยายทล.4 สายบ้านบางสัก-บ้านเขาหลัก พังงา แล้วเสร็จ ส่งเสริมเศรษฐกิจท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน

0
46

กรมทางหลวง (ทล.)กระทรวงคมนาคม โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) สาย อำเภอตะกั่วป่า – อำเภอท้ายเหมือง ตอน บ้านบางสัก – บ้านเขาหลัก จังหวัดพังงา เป็น 4 – 6 ช่องจราจร แล้วเสร็จ ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ช่วยกระจายความเจริญทางด้านเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เนื่องจากโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายหลักที่สำคัญในการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามัน เป็นทางหลวงแผ่นดินสายสำคัญที่กระจายโครงข่ายคมนาคมสู่ภาคใต้ ทางหลวงสายดังกล่าวแต่เดิมช่วง กม. ที่ 776+700 – 797+100 เป็น 2 ช่องจราจร และช่วง กม. ที่ 792+100 – 795+400 เป็นขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมเส้นทางคู่ขนานสำหรับรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลือเป็นขนาด 6 ช่องจราจร และ กม. ที่ 796 (แยกนางทอง) เป็นสามแยกสัญญาณไฟจราจร ซึ่งเป็นทางแยกที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น และเกิดปัญหาการจราจรติดขัด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจราจรและเป็นการอำนวยความปลอดภัยในการเดินทางบนทางหลวง

ดังนั้น ทล.จึงได้ก่อสร้างขยายเส้นทางดังกล่าว ระยะทางยาวประมาณ 20.36 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านบางสักและบ้านเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร ช่วง กม. ที่ 776+700 – 791+200 โดยก่อสร้างขยายคันทางเดิมทางด้านขวาทาง และด้านซ้ายทาง ความกว้างช่องจราจร 3.5 เมตร ไหล่ทางกว้าง 2.5 เมตร และช่วง กม. ที่ 791+200 – 795+400 ขยายเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร ผิวจราจรแบบแอสฟัลท์คอนกรีต ไหล่ทางกว้าง 2.5 เมตร รวมความกว้างของช่องจราจรทั้งหมด 13 เมตร และมี Bike Lane สำหรับจักรยาน กว้าง 2.3 เมตร โดยทั้ง 2 ช่วง ก่อสร้างเกาะกลางแบบยกระดับความกว้าง 2.5 เมตร เพื่อแบ่งทิศทางการจราจรให้ปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งออกแบบจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุด เพื่อเป็นการยกระดับในการให้บริการ อำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง งบประมาณ 744,422,200 บาท

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะทำให้การคมนาคมขนส่งมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้น ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ลดระยะเวลาในการเดินทางทำให้การขนส่งวัสดุอุตสาหกรรมและพืชผลทางเกษตรมีความคล่องตัว ทำให้สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนสองข้างทางและผู้ใช้เส้นทางมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางปฏิบัติตาม “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน และผู้ร่วมทาง ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)