เงินบาทอ่อน หรือ ดอลลาร์แข็ง?! สิ่งที่ต้องทำคือ…

0
61

วันนี้ (22 ก.ย.65 ) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟชบุ๊กหัวข้อ “เงินบาทอ่อน หรือ ดอลลาร์แข็ง?” ที่มีรายละเอียดดังนี้

เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.65) อเมริกาเพิ่มดอกเบี้ยอย่างแรงอีก 0.75% ขึ้นไปอยู่ที่ 3.0-3.25% สูงที่สุดตั้งแต่ช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008

ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยกับไทยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3% โดยที่ตลาดคาดการว่าดอกเบี้ยอเมริกาต้องขึ้นไปอีก 1% เต็มภายในปีนี้

เงินดอลลาร์จึงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน

เรื่องนี้เป็นปัญหา แต่ไม่ใช่เป็นวิกฤติ!

วิกฤติจะเกิดขึ้นได้หากเราประกาศปักหลักสู้กับดอลลาร์ด้วยการกำหนดเป้าอัตราแลกเปลี่ยนที่สวนสภาวะตลาด ไม่ว่าเป้านั้นจะเป็น 35 บาทหรือเท่าไรก็ตาม

ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยกับอเมริกา จะมีผลต่อเงินบาทแน่นอน จนกว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะชะลอตัวลงจนทำให้เงินเฟ้อของเขาลดลงและดอกเบี้ยเขาปรับลดลงได้ ซึ่งอย่างเร็วคือปีหน้า

และเมื่อเศรษฐกิจของเขาชะลอตัวลง เราจึงจะได้อานิสงส์จากราคานํ้ามันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายที่ควรจะลดลง

หากเป็นเช่นนั้น เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเอง โดยเฉพาะหากดุลบัญชีเดินสะพัดเราดีขึ้น และกลับมาเป็นบวกจากต้นทุนการนำเข้าที่ลดลง และรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

อย่าสร้างความตื่นตระหนก ด้วยการคิดว่า เงินบาทต้องเป็นเท่าโน้นเท่านี้ เงินบาทที่ 37 (เช้านี้ 37.2 แล้ว) จะไม่ทำให้เกิดวิกฤติแบบต้มยำกุ้งในอดีต ทุนสำรองเราสูง หนี้สาธารณะเราเอาอยู่

วันนี้ดอลลาร์แข็ง ไม่ใช่เงินบาทอ่อน สิ่งที่ต้องทำคือช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูง และช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ต้องติด black list จนหมดโอกาสฟื้นตัวแม้เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น
.