ทล.พร้อมเปิดวิ่งฟรี!มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช รองรับการเดินทางช่วงหยุดยาวเดือนก.ค.65

0
127

รมว.คมนาคมกำชับกรมทางหลวงดูแลประชาชนทุกมิติ พร้อมเปิดวิ่งฟรีมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-โคราช เพื่ออำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางช่วงหยุดยาวเดือนกรกฎาคม 2565

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีข้อสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวเดือนกรกฎาคม 2565 ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 13 – 17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 28 – 31 กรกฎาคม 2565  พร้อมกำชับให้ดูแลประชาชนในทุกมิติ เน้นการบริหารการจราจรในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างฯ ไม่ให้สภาพการจราจรติดขัด เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยขั้นสูงสุด ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และห่างไกล COVID – 19พร้อมมอบให้กรมทางหลวงเปิดให้บริการชั่วคราวบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน – นครราชสีมา ช่วงปากช่อง – สีคิ้ว -ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออกวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 30 – 31 กรกฎาคม 2565 เพื่อแบ่งเบาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ)

โดยได้คาดการณ์ปริมาณจราจรเข้าออกกรุงเทพมหานคร บนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์จำนวน 10 เส้นทาง  ในช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 5,375,727 คัน โดยแบ่งเป็นขาออก  2,692,935 คัน และขาเข้า 2,682,792 คัน  โดยคาดว่าวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 จะมีปริมาณจราจรขาออกสูงสุดประมาณ 589,586 คัน และวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 จะมีปริมาณจราจรขาเข้ากรุงเทพมหานครสูงสุดประมาณ 596,695 คัน จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง ติดตามข่าวสาร ตรวจสอบความพร้อมของรถก่อนเดินทาง

ทั้งนี้ กรมทางหลวงโดยหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศได้จัดเตรียมแผนการปฏิบัติงานรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่ทั้งด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ตลอด 24 ชั่วโมง  เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีมาตรการดังนี้

ด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย

   – จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ให้มีความพร้อมในการออกปฏิบัติงานทั่วประเทศ เมื่อมีอุบัติเหตุหรือมีจราจรติดขัดสะสมบนเส้นทางโดยร่วมกับตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษและรายงานเมื่อเปิดช่องทางทุกครั้ง

   – ตรวจสอบป้ายเตือน ไฟสัญญาณ ไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

   – หน่วยงานในพื้นที่ร่วมบูรณาการกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนของจังหวัด

    – ให้ปฏิบัติตามแนวทางมาตรการของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ด้านความมั่นคง และระเบียบ/ประกาศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่

ด้านการบริหารจัดการด้านความสะดวก

 – จัดเตรียมห้องน้ำสำหรับรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการ จอดพักรถ เข้าห้องน้ำ

 – จัดเตรียมรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เน้นการให้บริการกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ของกรมทางหลวง                                                                                                                                                                                                                                               – ให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านสายด่วนกรมทางหลวง 1586 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193  รวมทั้งสื่อทางช่องทางต่างๆ  ของกรมทางหลวง เช่น  Twitter ,  Facebook กรมทางหลวง และเฟสบุ๊ค “ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง”                                                                                                                                                                                           ด้านการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)  โดยให้เจ้าหน้าที่สวมใส่หน้ากากอนามัยพร้อมคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งก่อนเข้าปฏิบัติงาน และตั้งแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้พื้นที่ส่วนกลาง หมั่นทำความสะอาดภายในพื้นที่บริการประชาชน

                                                                                                                                                                                        ด้านการรายงานอุบัติเหตุ โดยรายงานการเกิดอุบัติเหตุใหญ่/อุบัติเหตุที่สำคัญจากศูนย์บริหารการจราจรและอุบัติเหตุกรมทางหลวง พร้อมบันทึกข้อมูลในระบบ HAIMS                                                                                                                                                                                                                                                 ด้านการรายงานจราจร  โดยรายงานสภาพการจราจรบนทางหลวง 12 เส้นทางสายหลักและมอเตอร์เวย์  โดยจัดการจราจรผ่านโดรน รายงานสดสภาพการจราจรทั้งมุมสูงและกล้อง CCTV แบบ Real Time ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น Thailand Highway Traffic , M Traffic และเว็บไซต์ http://www.highwaytraffic.go.th โดยมีเส้นทางที่รายงานได้แก่ 1) บริเวณต่างระดับบางปะอิน 2) ทล.1 และ ทล.9 (ต่างระดับ มจร.) 3) ทล.1 ช่วง วังน้อย – สระบุรี 4) ทล.2 ช่วงกลางดง 5) ทล.2 ช่วงลำตะคอง และมอเตอร์เวย์สาย M6 6) ทล.304 ช่วง กม.120 – กม.126 (ต่างระดับขำขวางและแยกเขาหินซ้อน)  7) ทล.348 ช่วง ช่องตะโก 😎 ทล.32 สายเอเชีย 9) ทล.35 ช่วงพระราม 2 และ 10) สายอื่น ๆ ที่มีการจราจรติดขัด

                                                                                                                                                                                        ด้านการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่ที่มีงานก่อสร้าง

  – คืนพื้นผิวจราจรที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจัดการจราจรให้เรียบร้อย สะดวก ปลอดภัย

  – ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้ผู้ใช้ทางทราบ

  – ให้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณก่อสร้างให้มีความเรียบร้อย ตรวจสอบป้ายเตือน ป้ายจราจร ไฟสัญญาณ ไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานงานก่อสร้างและให้อยู่ในสภาพใช้งานตลอดเวลา

  – ให้จัดหน่วยซ่อมบำรุงเพื่อซ่อมผิวทาง ไหล่ทาง และอุปกรณ์งานทางให้อยู่ในสภาพใช้งานตลอดเวลา

ด้านการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงแทน อาทิเช่น

   – เส้นทางสู่ภาคเหนือสามารถใช้ ทล.240 (กทม. – สุพรรณบุรี – ชัยนาท – นครสวรรค์)

   – เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถใช้ ทล.304 เพื่อกระจายปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก ทล.2

   – เส้นทางสู่ภาคตะวันออกสามารถใช้ ทล.36 และ ทล.344 เพื่อเลี่ยงรถติดบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และใช้ ทล.34 เพื่อกระจายปริมาณรถบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เพื่อไปยังจังหวัดชลบุรีและพัทยา

สำหรับการบริหารการจราจรมอเตอร์เวย์ M6 ช่วง ปากช่อง – สีคิ้ว – ขามทะเลสอ ช่วงขาออกวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2565  มีรูปแบบการให้บริการเดินรถทางเดียว โดยจะเปิดช่องจราจรด้านขวาทาง (ด้านขาเข้า) จำนวน 2 ช่องจราจรเท่านั้น สำหรับช่องจราจรด้านซ้ายทาง (ด้านขาออก) จะสงวนไว้ใช้สำหรับบริการฉุกเฉินเฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น โดยเปิดให้บริการมีจุดเข้า – ออกตามแผนที่ดังนี้

จุดที่ 1   :  จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2 ที่ กม.65 (ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดฯ)

จุดที่ 2   :  จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.201 ที่ กม.5+500 (บ.หนองรี  ต.สีคิ้ว)

จุดที่ 3   :  จุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2068 ที่ กม.8+607 (บ.พวงพยอม ต.ขามทะเลสอ)

จากจุดเข้า – ออก มอเตอร์เวย์ M6 ทล.2068 ที่ กม.8+607

จุดที่ 3    : เลี้ยวซ้ายเดินทางไป อ.ด่านขุนทด , อ.โนนไทย

จุดที่ 3 – 4  : ไปสู่ทางต่างระดับขามทะเลสอ ทล.290 ตัด ทล.2068

จุดที่ 4 – 7  : ไปสู่ ทล.2 ตัด ทล.2068  เดินทางเข้า ทล.2 ไปนครราชสีมาได้

จุดที่ 4 – 5 – 6  : ไปตามถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ทล.290 เลี้ยวซ้ายไป อ.โนนไทย,จ.ชัยภูมิ  หรือ เลี้ยวขวา ไป จ.ขอนแก่น

จุดที่ 4 – 8 : ไป อ.โชคชัย  จ.บุรีรัมย์                                                                                                                                                                               

โดยสำนักงานทางหลวงที่ 10 แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกปลอดภัย ดังนี้

– ติดตั้งป้ายและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย 

– อนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล 4 ล้อเท่านั้น และจำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.

– ตั้งจุดบริหารการจราจร คัดกรองรถเข้าสู่ทางหลวงมอเตอร์เวย์ M6 โดยช่วงขาออกวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2565 มี 1 จุดคือ ทล.2 ที่ กม. 65+000  และช่วงขาเข้าวันที่ 15 – 17 กรกฎาคม 2565  มี 2 จุดคือ   ทล.201 ที่ กม.5+500  และ ทล.2068 ที่ กม.8+607

– ตั้งจุดบริการห้องน้ำ 1 จุด บริเวณ Rest Area ที่ กม.147

– กรณีเกิดอุบัติเหตุโดยจัดประตูทางออกฉุกเฉินรวม 11 จุด ที่ กม.122+250 , กม.129+600, กม.133+910 ,กม.139+900 , กม.145+000 , กม.150+350 , กม.160+200 , กม.165+100 , กม.170+000 , กม.175+000 และ กม.179+200

ทั้งนี้  ได้เน้นย้ำให้สำนักงานทางหลวงและแขวงทางหลวงในพื้นที่เตรียมพร้อมดูแลด้านความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจร วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เตรียมร่างกายให้พร้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 มอเตอร์เวย์  1586 กด 7 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และตำรวจทางหลวง 1193