ปลัดคมนาคมส่งหนังสือเชิญ กทม. ถกปมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 17 มิ.ย.นี้ จี้ข้อสงสัยเพิ่มเติมแจงเหตุมูลหนี้ และหนังสือจัดซื้อจัดจ้าง “บีทีเอส” เดินรถส่วนต่อขยายตามกฎหมาย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เกี่ยวกับเรื่องการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงการนัดประชุมหารือกับทาง กทม. ซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้ทำหนังสือเชิญไปยัง กทม. ซึ่งได้ทำการประชุมดังกล่าว ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากเป็นการดำเนินการในระดับผู้ปฏิบัติงาน
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือเชิญไปยังปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานกรรมการร่วม เพื่อเข้าประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการดำเนินงาน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริการจัดการเดินรถ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิด – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงแบริ่ง – สุมทรปราการ ครั้งที่ 2/2565 ในวันศุกร์ที่ 17 มิ.ย.65นี้ เวลา 14.30 น. เพื่อหารือแนวทางการดำเนินโครงการร่วมกันในการกำหนดแนวทางการโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิด – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งการเชิญปลัดกรุงเทพมหานครดังกล่าวเป็นการประชุมร่วมกันเพื่อหาข้อสรุป สืบเนื่องจากที่คมนาคม มีประเด็นความเห็นเพิ่มเติมเข้า ครม.ไป และในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้มี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้าร่วมประชุม อย่างที่เคยมีกระแสข่าวแต่อย่างใด เป็นเพียงการประชุมเพื่อหาแนวทางระหว่างหน่วยงาน
นอกจากนั้นทางกระทรวงคมนาคมยังได้ทำหนังสือถึงปลัดกรุงเทพมหานคร โดยขอข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา เกี่ยวกับผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับคำชี้แจงมาบางส่วนแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัย โดยขอข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบด้วย
1.กรุงเทพมหานครชี้แจงว่า มูลหนี้ในการจัดซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและ เครื่องกล) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-ดูคต และช่วงแบริ่ง- สมุทรปราการระหว่างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นมูลหนี้ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ก่อขึ้น โดยที่กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นคู่สัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว
ดังนั้น มูลหนี้งานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ที่เกิดขึ้นจึงเป็นมูลหนี้ของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เหตุใดจึงนำมูลหนี้ดังกล่าวเป็นภาระของภาครัฐ และกำหนดเป็นเงื่อนไขให้ผู้รับสัมปทานเป็นผู้รับผิดชอบไว้ในร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขที่กระทรวงมหาดไทยได้นำเสนอต่อ ครม.ด้วย
2.กรุงเทพมหานครชี้แจงว่า บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ดำเนินการในการจัดซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและ เครื่องกล) สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพธนาคมอย่างถูกต้องและครบถ้วนแล้ว กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้รับเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว จึงขอความอนุเคราะห์กรุงเทพมหานครจัดส่งข้อมูลให้กระทรวงคมนาคมด้วย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือสอบถามข้อมูลไปยังกรุงเทพมหานคร โดยขอความชัดเจนเกี่ยวกับมูลหนี้ที่เกิดจากการติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งเป็นสาระสำคัญอยู่ในร่างสัญญาสัมปทานที่เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเป็นอำนาจการอนุมัติของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและไม่ต้องเสนอสภากรุงเทพมหานครตามที่กรุงเทพมหานครที่แจงใช่หรือไม่
รวมทั้งกรณีที่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ว่าจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลัก ติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งเดินรถไฟฟ้าโครงการส่วนต่อขยายที่ 2 ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบใด รวมทั้งขอสำเนาเอกสารและขอทราบระยะเวลาในการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ซึ่งต่อมากรุงเทพมหานครได้มีหนังสือชี้แจงว่ามูลหนี้งานระบบการเดินรถ รวมทั้งมูลหนี้งานเดินรถไฟฟ้า เป็นมูลหนี้ของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ที่ดำเนินการ จึงไม่อยู่ในอำนวยการอนุมัติของทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสภากรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานครได้เคยแจ้งให้กระทรวงคมนาคมทราบแล้วว่า บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ดำเนินการตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพมหานครอย่างถูกต้องและครบถ้วน