เรือด่วนเจ้าพระยา ประกาศปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเรือทุกประเภท 1 บาทสอดคล้องต้นทุนตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งสูง ยกเว้นเรือปรับอากาศธงแดง เริ่ม 15 มิ.ย. นี้ ชี้ที่ผ่านมาได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารเพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนประชาชน ย้ำหากราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ฯจะลดอัตราค่าโดยสารต่อไป
นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ดถึงท่าเรือวัดราชสิงขรได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก ประกอบกับราคาน้ำมันดีเซลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาอยู่ที่ 32.99 บาทต่อลิตร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราค่าโดยสาร เรือธงส้ม ธงเหลือง ธงเขียว ขึ้น 1 บาทจากอัตราเดิม ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 110/2559 เรื่อง ประกาศอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลงวันที่ 29 กันยายน 2559 ดังต่อไปนี้
• เรือธงส้ม: เส้นทางนนทบุรี – วัดราชสิงขร จากราคา 15 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 16 บาท (ตลอดสาย)
• เรือธงเหลือง: เส้นทางนนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท (ตลอดสาย)
• เรือธงเขียว
– เส้นทาง ปากเกร็ด – นนทบุรี จากราคา 13 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 14 บาท
– เส้นทาง นนทบุรี – สาทร จากราคา 20 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 21 บาท
– เส้นทาง ปากเกร็ด – สาทร จากราคา 32 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 33 บาท
ราคาค่าโดยสารดังกล่าวเป็นราคาที่อยู่ในเกณฑ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 29.01 บาท ถึง 33 บาทต่อลิตร ตามประกาศของกรมเจ้าท่าที่ 110/2559
• เรือธงแดง (ปรับอากาศ): นนทบุรี – สาทร ราคา 30 บาทตลอดสาย คงเดิม (ราคาปกติ 50 บาท)
นาวาตรีเจริญพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัทได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารมาเป็นระยะเวลานาน เพราะคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการเป็นหลัก แต่ผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อรวมกับภาวะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ทำให้ทางบริษัทจำต้องปรับค่าโดยสารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในกรณีที่ราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ฯ ตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 110/2559 บริษัทฯ จะปรับลดอัตราค่าโดยสารต่อไป