ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนทำให้มีฝนตกชุกและต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทช.จึงได้ทบทวนแนวทางการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้หน่วยงานในส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบท และหมวดบำรุงทางหลวงชนบท ปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที
โดยแบ่งการเตรียมความพร้อมรับมือ เป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ก่อนเกิดเหตุ
– ดำเนินการทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำ ตัดหญ้า กำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ ท่อลอด สะพาน
– เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ สนับสนุนยานพาหนะ อุปกรณ์การขนส่ง พร้อมสนับสนุนการอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยหรือพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุอุทกภัยเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย
– เตรียมป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง (กำหนดช่องจราจร) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน กรณีมีน้ำท่วมสูง ถนนขาด/สะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
– ตัดแต่งกิ่งไม้ในเขตทางหลวงชนบท เพื่อป้องกันกิ่งไม้ตกหล่น หักโค่น เมื่อเกิดพายุ หรือลมพัดรุนแรง
– ตรวจสอบข้อมูลสายทางที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงกรณีดินถล่มบริเวณไหล่เขาและสายทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย โดยให้หน่วยงานในสังกัด จัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่เสี่ยงและเข้าดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุการณ์
2. ขณะเกิดเหตุ
– บริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กรณีเส้นทางผ่านไม่ได้ให้จัดหาทางเลี่ยงพร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานของจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที เมื่อได้รับการร้องขอ
– กรณีถนน/สะพานขาด ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ชั่วคราว เช่น วางสะพานเบลีย์ถมดินคอสะพาน
– กรณีต้นไม้หักโค่น ปิดทับ/กีดขวางเส้นทาง ให้รีบนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้
– ให้หน่วยงานในพื้นที่ ประสานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานทหารในพื้นที่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนรายงานข้อมูลสายทางที่ประสบอุทกภัยให้ผู้บริหารได้รับทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
3. หลังน้ำลด
– หลังจากเข้าสู่ภาวะปกติ หากตรวจพบสายทางที่เกิดความเสียหายรุนแรง ให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน และเข้าดำเนินการสำรวจ ออกแบบประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทช.จะติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ทันท่วงที รวมถึงขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146