กระแสแห่เช็คอิน-อินเทรนด์ชิลล์ๆริมเขื่อนยังไม่จืดจางลงเลยซะทีเดียว นี่แม้มาช้ายังดีกว่าไม่มาสำหรับกรมทางหลวง(ทล.)ไม่ยอมตกขบวน “ริม-สันเขื่อนฟีเวอร์”กับชาวโลกเขา ล่าสุด แนะ 5 เส้นทางให้ประชาชนได้เลือกขับรถชิลล์ๆชมเขื่อนกันในช่วงวันหยุดยาวเดือนพ.ค.นี้ หวังช่วยหนุนธุรกิจท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 5 เส้นทางชมเขี่อนมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1.เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา เป็นเขื่อนดิน บริเวณรอบขอบเขื่อนเก็บน้ำจะอยู่ติดริมทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มีมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 สาย บางปะอิน-โคราช ระยะทาง 196 กม.ขนานทอดยาวไปตามแนวเขื่อน โดยสื่อสังคมออนไลน์ได้ยกให้เป็น “ถนนลอยฟ้าที่สวยที่สุด”ในประเทศไทย
*สำหรับการเดินทางจากอำเภอปากช่อง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าโคราช อยู่ระหว่าง กม.184 – 193
2.เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของ จ.ตาก และเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต”บ้านนา อ.สามเงา จ.ตาก สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำให้แก่เกษตรกร เป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า
*การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1357 ที่ กม.15+050 ตอน ทางเข้าเขื่อภูมิพล ตัดจากถนนหมายเลข 1 ที่กม. 566+600 ด้านซ้ายทาง ตอน วังม่วง- แม่เชียงรายบน
3.เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย เพื่อประโยชน์ด้านชลประทานและผลิตไฟฟ้า ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในส่วนท้องที่อ.ทองผาภูมิ, งขละบุรี จ.กาญจนบุรี เขื่อนวชิราลงกรณ์จึงจัดเป็นเขื่อนอเนกประสงค์และยังเป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย
*การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าจ.ราชบุรี ระยะทางประมาณ 65 กม. และใช้ทางหลวงหมายเลข 323 ต่อเนื่องทางหลวงหมายเลข 3272 มุ่งหน้าอ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 300 กม. ทางเข้าเขื่อนวชิราลงกรณ์จะอยู่ทางขวามือ
4.เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นสายเลือดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านชลประทานและการทดน้ำเพื่อการเกษตรโดยระบายน้ำจากแม่น้ำในภาคเหนือสู่ภาคกลางและอ่าวไทย ส่งต่อไปยังพื้นที่เพาะปลูกภาคกลาง
*การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 311 ชัยนาท จากอ.เมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 304 และเลี้ยวซ้ายทางไปอ.สรรพยา ประมาณ 6 กม.
และ5.เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา อยู่ในเขตอ.ปักธงชัย เขื่อนลำพระเพลิง แห่งนี้ก็มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติที่โดดเด่น ด้วยลักษณะภูมิประเทศ สองฟากฝั่ง เป็นป่าไม้เขียวขจีร่มรื่น และตอนต้นแม่น้ำยังมีน้ำตกสวยงามต่าง ๆ นักท่องเที่ยว ทั่วไปมักนิยมเดินทางมาชมทัศนียภาพ วิวทิวทัศน์และตากอากาศแถวบริเวณเขื่อน
*การเดินทางจากสี่แยกลำพระเพลิง บนทางหลวงหมายเลข 304 บริเวณ กม.267+692 เดินทางมุ่งหน้าเขื่อนลำพระเพลิงอีก 28 กิโลเมตร
ทั้งนี้ “5 เส้นทางชมเขื่อน”ดังกล่าวนี้ กรมทางหลวงได้ทำความสะอาด ตกแต่ง ปรับปรุงป้ายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ อีกทั้งให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยการเดินทางให้กับประชาชน ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่จอดยานพาหนะกีดขวางการจราจรบนทางหลวง และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างปลอดภัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
และโปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขภายใต้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ “ท่องเที่ยวสุขใจ ห่างไกลโควิด – 19” สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)
ใครสะดวกอยากไปปลดปล่อยอารมณ์สบายๆพลางชมวิวทิวทัศน์-ความสวยงามของ 5 เขื่อนทางเลือกท่ามกลางบรรยากาศชิลล์ๆแล้วล่ะก็ นิมนต์…เย้ย!เชิญไปตะบันความสุขหรรษา&เก็บภาพไว้เป็นความทรงจำตามกระแสริม-สันเขื่อนฟีเวอร์ ได้ตามอัธยาศัยครับพี่น้อง!
ว่าแต่ว่า…ทำไม???เขื่อนกะทูนอันลือเลื่อง&อื้ออึงถึงตกสำรวจจาก 5 เขื่อนนี้ได้ล่ะค้าบเจ้านาย!