การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเมาไม่ขับ กองบังคับการตำรวจรถไฟ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ จัดงานรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ สงกรานต์ปลอดอุบัติเหตุ ปลอดโควิด 19”
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 และอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้กับประชาชน เนื่องจากจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้กำหนดนโยบายอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยในการบริการขนส่งสาธารณะ และบนโครงข่ายคมนาคมอย่างบูรณาการ รวมถึงดูแลการเดินทางตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยยึดหลัก “เดินทางสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19” จึงได้มอบนโยบายและสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อม กำกับดูแลการให้บริการมาตรฐานความปลอดภัยโดยให้การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 13 ขบวน
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอันมีสาเหตุมาจากการเมาแล้วขับ จึงได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิเมาไม่ขับ จัดงานโครงการ “ชีวิตวิถีใหม่ สงกรานต์ปลอดอุบัติเหตุ ปลอดโควิด-19” และพิธีปล่อยแถวตำรวจรถไฟ อย่างต่อเนื่องนับเป็นปีที่ 25 แล้วด้วยความมุ่งหวังที่อยากเห็นประชาชน ทั้งที่เป็นผู้มาใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงอันตรายอันเกิดจากการเมาสุราแล้วขับรถ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยจัดให้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานด้านปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ รวมถึง มาตรการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานี และบนขบวนรถทุกขบวน พร้อมกำชับกวดขันผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน โดยระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน โดยการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ จำนวน 184 ขบวนต่อวัน แบ่งออกเป็น ขบวนรถเชิงพาณิชย์ 46 ขบวน และขบวนรถเชิงสังคม 138 ขบวน โดยแยกตามเส้นทางเป็นสายเหนือ 34 ขบวน
สายตะวันออกเฉียงเหนือ 44 ขบวน สายใต้ 46 ขบวน สายตะวันออก 22 ขบวน สายมหาชัย 34 ขบวน และสายแม่กลอง 4 ขบวน ซึ่งสามารถรองรับปริมาณการเดินทางได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน และมีการเพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 13 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้อีกประมาณ 8,000 คน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในวันที่ 11 – 12 เมษายน 2564 จะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพสูงสุด เฉลี่ยวันละ 40,000 คน ส่วนเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพ คาดว่า ประชาชนจะทยอยเดินทางกลับ ในวันที่ 16 – 17 เมษายน 2565 เฉลี่ยวันละ 45,000 คน
ในด้านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้กำชับให้ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ตามมาตรการของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการตั้งจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าและออกสถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง การรักษาระยะห่าง รวมถึงให้สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ ตลอดจนเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ในขบวนรถโดยสารทุกครั้งหลังให้บริการ ตลอดจนฉีดพ่นบริเวณจุดสัมผัสพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานีรถไฟเป็นประจำ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยต่อผู้โดยสารตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย