“ศักดิ์สยาม”เปิดไทม์ไลน์ -แอคชั่น แพลน โอนย้าย 3 สนามบิน “กระบี่-อุดรธานี-บุรีรัมย์” ให้ทอท.เข้าบริหาร จ่อเสนอ ครม.เห็นชอบได้ภายในเดือนเมษายนนี้ เข้าบริหารจัดการจริงภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนปีนี้ มั่นใจช่วยยกระดับ เพิ่มศักยภาพใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานในภูมิภาคจากบทบาท Local airport ให้ยกระดับเป็น Regional Airport และ Secondary Hub Airport ในอนาคต
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในการโอนย้าย 3 สนามบิน สนามบินอุดรธานี สนามบินกระบี่ และสนามบินบุรีรัมย์ จาก กรมท่าอากาศยาน(ทย.) มาสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) ว่า จากที่ทางคณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางวิธีการในการให้ ทอท.บริหารจัดการท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทย. ได้สรุปมา ที่ประชุมจึงมีมติที่ให้จะ ทอท. รับโอน 3 สนามบินจาก ทย. มาบริหารจัดการแทน ซึ่งตามขั้นตอนแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ทางกระทรวงคมนาคมจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ ทอท. เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการ สนามบินอุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ แทน ทย. พร้อมทั้งแนวทางการดำเนินการฯ ด้านอื่นๆ ได้ในเดือนเม.ย.65 ซึ่งตามขั้นตอน ทอท. เริ่มให้บริการ สนามบินกระบี่ และสนามบินอุดรธานีอย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค. 65 และสนามบินบุรีรัมย์ ใน เดือน ก.ย. 65
สำหรับสาเหตุที่ให้มีการโอนย้ายความรับผิดชอบของ 3 สนามบิน เนื่องจากมีการพิจารณาความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ตามแนวคิดการพัฒนาโครงข่ายระบบท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวม (National Airport System) และการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ แล้ว พบว่า การให้ ทอท. เข้าไปบริหารจัดการท่าอากาศยาน ทั้ง 3 แห่ง แทน ทย. จะเป็นการเพิ่มศักยภาพและใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานในภูมิภาคของ ทย. ที่ปัจจุบันมีบทบาทเป็น Local airport ให้ยกระดับเป็น Regional Airport และ Secondary Hub Airport ในอนาคต
ขณะเดียวกันจะเป็นการเปิดโอกาสให้สายการบินมีทางเลือกด้านการตลาดเส้นทางการบินระหว่างประเทศ รวมทั้งสามารถย้ายฐานการบินโดยกระจายไปยังภูมิภาคของประเทศเพื่อลดการต่อเครื่อง ถ่ายลำ รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสาร ตลอดจนช่วยลดปัญหาการบริการจราจรทางอากาศและ ขีดความสามารถของห้วงอากาศในเขตแถลงข่าวการบินกรุงเทพ บรรเทาความแออัดของ สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ในระดับภูมิภาค และระดับสากลต่อไป
