ในยุคที่สายการบินโลว์คอสต์กำลังรุ่งโรจน์และยิ่งทวีความเบ่งบานแผ่ปกคมคลุมทั่วน่านฟ้าเมืองไทย ทำเอาผู้ประกอบการขนส่งรถสายถึงกับออกอาการ “คลื่นไส้อาเจียน” บางเจ้าทนแบกต้นทุนไม่ไหวต้องเลิกกิจการแล้วไปเลือกสัมมาอาชีพอื่นแทน ส่วนบางรายลดรถลดคนหวังลดต้นทุนพลางประคองตัวให้อยู่รอด
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจรถทัวร์ซบเซาอย่างเห็นได้ชัด เหตุยุคนี้สมัยนี้มีทางเลือกการเดินทางมากขึ้น ครั้นจะควบแรงม้าวิ่งแข่งระยะทางไม่เกิน 300 กม. ก็โดนรถตู้ร่วมบริการบขส.วิ่งตัดหน้าไปแทน หรือไม่ผู้โดยสารเลือกที่จะควบพาหนะส่วนตัวไปเอง คงไม่ต้องสาธยายถึงระยะทางไกลๆที่ถูกสายการบินโลว์คอสต์รับกินนิ่มสบายใจเฉิบ ความซวยระดับพระกาฬจึงบังเกิดแด่ธุรกิจรถทัวร์ ที่กลายเป็น “ทางเลือกสุดท้าย”
เมื่อทางเลือกผู้บริโภคมากขึ้น ผนวกกับภาวะการแข่งสูงลิ่วเช่นนี้ หากหยุดนิ่งไม่พัฒนาและปรับกลยุทธ์การตลาดและการบริการก็นับวัน “เจ๊ง” ล่าสุด “สมบัติทัวร์”บริษัทรถทัวร์ที่เปิดให้บริการรถโดยสารเดินทางข้ามจังหวัด สร้างปรากฏการณ์ใหม่ “แหกกฎเดิมๆ”ของรถสายด้วยการเผยโฉมรถทัวร์รุ่นใหม่ 20 ที่นั่ง เส้นทางกรุงเทพ-เชียงราย ภายใต้ชื่อ “เวียงพิงค์บัส” ที่เน้นความสะดวกสบาย หรูหราระดับ “ซูปเปอร์วีไอพี” ยังกะนั่งสายการบินโลว์คอสต์(อะไรอย่างงั้น) ซึ่งได้เปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ไปแล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว
แต่จะเลิศหรูหราอลังการสมคำกล่าวอ้างหรือไม่ เราไปชำแหละความหรูหรารถทัวร์ระดับซุปเปอร์วิไอพีอย่าง “เวียงพิงค์บัส”กัน
ที่นั่งเดี่ยว มีความเป็นส่วนตัว ลดความอึดอัด
รถทัวร์โดยสารที่ชื่อว่า ‘เวียงพิงค์บัส’ เป็นบริการใหม่ล่าสุดจากสมบัติทัวร์ ที่ให้บริการเส้นทาง ‘กรุงเทพฯ – เชียงราย’ โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงที่เป็นรถบัสที่มีเพียง 20 ที่นั่งเท่านั้น ตัวรถมีความยาว 15 เมตร ส่วนแชสซีส์เป็นของค่ายสแกนเนีย ที่ขึ่นชื่อในเรื่องสมรรถนะและประสิทธิภาพของตัวรถ เมื่อเบาะที่นั่งถูกบีบเหลือ 20 ที่นั่ง ก็จะทำให้พื้นที่ภายในดูกว้างขวางโอ่อ่าไม่สร้างความอึดอัดให้กับผู้โดยสาร ทุกที่นั่งให้ความเป็นส่วนตัว เพราะถูกออกแบบเป็นที่นั่งเดี่ยว ตอบโจทย์คนที่ชอบเดินทางคนเดียว หรืออยากเดินทางอย่างสบายๆ ไม่ต้องไปเบียดเสียดหรือต้องลุ้นตัวโก่งว่าจะได้นั่งข้างใคร
ตอบโจทย์ความสุขสบาย
ส่วนเบาะนั่งก็ได้รับการออกแบบมาตอบโจทย์ความสุขสบาย ทุกเบาะคงความนุ่มและใหญ่ ปรับนอนได้อย่างที่ปรารถนาโดยที่ไม่ต้องเกรงใจใคร อีกทั้งทุกเบาะยังติดตั้งระบบนวดหลังไว้เพื่อกันความเมื่อยล้ายามเดินทางไกลๆ และเบาะทำงานด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด แผงควบคุมของเบาะจะอยู่ด้านขวามือปุ่มต่างๆ ที่ปรับเบาะให้เอนลง หรือปรับให้ยกขาขึ้น รวมไปถึงปุ่มนวดหลังจะอยู่บนแผงควบคุมเดียวกัน ส่วนด้านขวามือเหนือแผงควบคุมเบาะจะมีช่องใส่น้ำดื่ม ช่อง USB สำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิค และไฟสำหรับอ่านหนังสืออีกด้วย
เสิร์ฟหลากหลายความบันเทิง
บริเวณที่นั่งมีจอ LCD ทัชสกรีนพร้อมหูฟัง ที่อัดแน่นไปด้วยหลากความบันเทิงบรรจงเสิร์ฟสายตาผู้โดยสารยังกะอยู่บนเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง รายการทีวีสุดฮิต การ์ตูนสุดฮา และซีรีส์ดังๆให้เลือกสรรฆาตกรรมเวลายามอยู่บนรถทัวร์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความเครียดปนเซ็งยามที่ต้องเดินทางระยะไกลได้อิกช่องทางหนึ่ง
ห้องน้ำสะอาด กว้าง ไร้กลิ่นรบกวน
การเดินทางไกลๆขาดไม่ได้เด็ดขาด คือห้องน้ำ โดยทั่วไปหลายคนต้องกังวลเรื่องห้องน้ำบนรถทัวร์ที่คับแคบ ไม่สะอาด และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอดช่องแคบโชยชนจมูกผู้อื่นภายในรถ แต่บนรถคันนี้ตัดปัญหานั้นทิ้งเลย เพราะบนรถมีประตูสำหรับป้องกันกลิ่นอีกชั้นหนึ่ง อีกทั้งมีความกว้างกว่ารถทัวร์ปกติและสูงถึง 174 ซม. มีห้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนอยู่ท้ายรถ
บริการอาหารแบบบุฟเฟ่ต์
ส่วนการบริการบนรถนั้น จะมีพนักงานแต่งกายชุดพื้นเมืองภาคเหนือคอยให้คำแนะนำและบริการการเสิร์ฟอาหารว่าง ไม่ว่าจะเป็นแจ็คสเน็คบ็อกที่นั่งละหนึ่งกล่อง และจุดพักรถที่กำแพงเพชรจะมีบริการอาหารแบบบุฟเฟต์ ส่วนเมนูจะหมุนเวียนกันไปไม่ซ้ำกันตามแต่โอกาสต่างๆ ซึ่งอาหารบุฟเฟต์รวมอยู่ในค่าตั๋วเรียบร้อยแล้ว หายห่วงว่าอาหารจะหมดหรือถูกผู้โดยสารคันอื่นๆแย่งรับประทาน เพราะทางสมบัติทัวร์จัดโซนแยกเลยสำหรับลูกค้าที่นั่ง “เวียงพิงค์บัส”ต่างหาก
สำหรับราคาค่าตั๋วนั้นอยู่ที่ 890 บาทตลอดสาย บริการวันละ 2 เที่ยวออกจากกรุงเทพฯ เวลา 19.00 น. และออกจากเชียงราย เวลา 16.00 น. และอนาคตดันใกล้นี้จะมีการเพิ่มรถขึ้นอีก และจะเปิดให้บริการในสายกรุงเทพฯ – เชียงใหม่อีกด้วย ส่วนช่องทางการจองตั๋ว หรือซื้อตั๋วทำได้ 2 วิธี คือซื้อได้ที่สมบัติทัวร์ หรือโทรจองผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1215 แล้วสามารถชำระเงินได้ที่ 7-11 หรือ ATM
