ATP30 กางแผนปี 65 ชูกลยุทธ์พัฒนาเทคโนโลยียกระดับความสามารถการแข่งขัน ก้าวสู่การเป็นผู้นำ Smart Mobility เตรียมขยายพื้นที่ให้บริการนิคมฯภาคกลาง พร้อมศึกษาการให้บริการรถไฟฟ้าต่อยอดธุรกิจในอนาคต ตั้งเป้าผลประกอบการ All Time High รายได้โต 25% แตะ 600 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 25% และอัตรากำไรสุทธิ 10%
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2565 บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์ขยายฐานพื้นที่ให้บริการ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยียกระดับความสามารถการแข่งขัน ก้าวสู่การเป็นผู้นำ Smart Mobility
สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายพื้นที่ให้บริการในนิคมอุตสาหกรรมภาคกลาง อาทิ จังหวัดอยุธยา จังหวัดสระบุรี อีกทั้ง มีแนวโน้มการเจราจาลูกค้าเพิ่ม จากเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจ บริษัท โตโยต้า ทูโช ไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (TTTH) คาดเห็นความชัดเจนในปี 2565 นี้ ซึ่งจากแนวโน้มการให้บริการที่เพิ่มขึ้นบริษัทจึงมีแผนเพิ่มจำนวนรถปีนี้ 100 – 150 คัน งบการลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการการเดินรถมากขึ้น โดยพัฒนาแอปพลิเคชัน และโปรแกรมต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ ประกอบด้วย 1. อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ 2. บริหารต้นทุนให้กับลูกค้า (จัดการเส้นทางการเดินรถ) 3. พัฒนาระบบปฏิบัติการติดตามการเดินรถ ตรวจเช็คและซ่อมบำรุง 4. ควบคุมต้นทุนของบริษัท ซึ่งหากระบบต่างๆ สมบูรณ์แบบแล้ว บริษัทจะนำการเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในการขยายพื้นที่ให้บริการอื่นๆ ด้วย
ขณะที่ ความร่วมมือและให้บริการกับ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด และบริษัท อรุณ พลัส จำกัด ในการบริหารจัดการการให้เช่าและการเดินรถไฟฟ้ามีกระแสตอบรับที่ดี ประกอบกับแนวโน้มการใช้รถไฟฟ้าที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงอยู่ระหว่างศึกษาการให้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจในอนาคต
“หลายปีที่ผ่านมา ATP30 มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้วยคุณภาพและความปลอดภัยในการให้บริการ ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและมีจำนวนรถให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทจึงมุ่งเน้นขยายฐานพื้นที่ให้บริการ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการดำเนินงาน สร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไร โดยบริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการทำสถิติสูงสุด รายได้โต 25% แตะ 600 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 25% และอัตรากำไรสุทธิ 10% ซึ่งเป็นอัตราที่บริษัทเคยทำได้มาก่อนเกิดการระบาดของเชื้อโควิด- 19” นายปิยะ กล่าว