เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (FedEx Express) บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น (FedEx Corp.) (NYSE: FDX) และผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเปิดตัว DoraSorter – หุ่นยนต์คัดแยกสินค้าอัจฉริยะ ที่ใช้กำลังงานปัญญาประดิษฐ์ (AI) – โดยจับมือกับ Dorabot บริษัทชั้นนำที่ให้บริการโซลูชั่นหุ่นยนต์ในแวดวงโลจิสติกส์ บริการหุ่นยนต์คัดแยกสินค้าแสดงถึงแรงผลักดันการดำเนินงานของเฟดเอ็กซ์ให้เป็นไปในรูปแบบดิจิทัลและสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะเพื่อจัดการกับปริมาณของการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
หุ่นยนต์ DoraSorter ของเฟดเอ็กซ์ตัวแรกในประเทศจีนกำลังจะถูกนำไปใช้งานที่ศูนย์คัดแยกขนส่งอีคอมเมิร์ซขนาด 5,200 ตร.ม.ทางตอนใต้ ณ เมืองกวางโจว DoraSorter ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการปฎิบัติงานคัดแยกสินค้าประจำวันเรียบร้อยแล้ว และสามารถจัดการพัสดุขนาดเล็กทั้งขาเข้าและขาออกของลูกค้าในธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่อยู่ในประเทศจีนตอนใต้ได้ ในขณะที่ทีมเฟดเอ็กซ์และ Dorabot ยังคงพัฒนาหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่องตามความต้องการในการปฏิบัติงาน และสำรวจสถานการณ์การใช้งานเพิ่มเติม ฟังค์ชั่นหลักของ DoraSorter คือการแยกสินค้าตามจุดหมายปลายทางที่ตรงกับการทำงานของศูนย์คัดแยก คุณสมบัติที่สำคัญของ DoraSorter ได้แก่
-ในพื้นที่ประมาณ 40 ตร.ม. หุ่นยนต์จะสามารถบรรทุกบรรจุภัณฑ์ได้มากถึง 10 กิโลกรัมซึ่งครอบคลุมจุดหมายปลายทางได้มากถึง 100 แห่ง พร้อมกัน
-หุ่นยนต์มีที่จับรูปลิ้นชักที่จะสามารถเชื่อมต่อกับสายพานลำเลียงสินค้าได้อย่างสนิท ราบรื่น
-หุ่นยนต์ประกอบด้วยเครื่องอ่านบาร์โค้ดที่สามารถสแกนพัสดุเพื่ออ่านข้อมูลปลายทาง และจะใช้ที่จับเพื่อรับพัสดุจากสายพานนำไปยังช่องปลายทางที่เกี่ยวข้อง
การลงทุนของเฟดเอ็กซ์ในการวางระบบคลังสินค้าอัตโนมัตินี้สะท้อนถึงทิศทางอุตสาหกรรมในวงกว้าง จากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก ได้กระตุ้นให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ตั้งแต่การจัดการคลังสินค้าไปจนถึงการขนส่งไมล์สุดท้ายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าอีคอมเมิร์ซ[1] ช่วงฤดูกาลส่งสินค้าออกที่มากที่สุด (seasonal peaks) และความคาดหวังที่สูงขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการการจัดส่งที่รวดเร็ว McKinsey & Company ได้คาดการณ์ว่าระบบคลังสินค้าอัตโนมัติทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 5.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ($51 billion) ภายในปี พ.ศ. 2573[2] และภายในปี พ.ศ. 2568 จะมีการติดตั้งหุ่นยนต์มากกว่า 4 ล้านตัวในคลังสินค้ามากกว่า 50,000 แห่ง[3]
“ด้วยการที่อีคอมเมิร์ซกำลังเป็นศูนย์กลางในอนาคตของการค้าปลีกในภูมิภาคของเรา ความรวดเร็วในการรับพัสดุและจัดส่งถึงหน้าบ้านผู้บริโภคนั้นกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันเพื่อนำหุ่นยนต์คัดแยกสินค้ามาใช้ การนำ DoraSorter มาสู่ประเทศจีนในฐานะโครงการนำร่องเป็นการตัดสินใจที่ไม่น่าแปลกใจจากการที่จีนเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยคาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ชในประเทศจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 3.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ($3.3 trillion) ภายในปี พ.ศ. 2568[1] นางสาวคาวอล พรีท ประธานบริษัทเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และทวีปแอฟริกา (AMEA) กล่าว “ในขณะที่เรามองไปข้างหน้าที่จะสร้างเครือข่ายลอจิสติกส์อัจฉริยะที่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อที่จะช่วยให้ผู้บริโภคของเราเติบโตในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล การเป็นพันธมิตรร่วมกับ Dorabot ครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเครือข่ายเพื่ออนาคต เทคโนโลยีที่ถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะยังคงส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการสนับสนุนผู้บริโภคในภูมิภาคและยกระดับห่วงโซ่อุปทานสำหรับอนาคต”
“นวัตกรรมเป็นหัวใจหลักและปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์ของเฟดเอ็กซ์ในประเทศจีน” นายโรเบิร์ต ชูวว์ รองประธานฝ่ายปฎิบัติการ บริษัทเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำประเทศจีน กล่าว “เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค เราได้สำรวจและลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อพัฒนาการขนส่งรอบด้าน การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการใช้บริการโลจิสติกส์ที่ขนส่งได้ตรงต่อเวลาและมีความยืดหยุ่นในการให้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งได้สร้างความท้าทายและโอกาสใหม่ๆสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์โดยรวม ความร่วมมือของเราและ Dorabot เป็นความตั้งใจล่าสุดในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างโครงสร้างโลจิสติกส์ที่คล่องตัวผ่านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ (robotics) ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน”
นายเซียวไบ เดง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ของ Dorabot กล่าวว่า “การใช้ DoraSorter ช่วยให้เฟดเอ็กซ์สามารถคัดแยกการจัดส่งสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้ในปริมาณที่สูงขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระดับโลกระหว่าง Dorabot กับ เฟดเอ็กซ์ เราหวังว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อที่จะนำแอพพลิเคชั่น AI และหุ่นยนต์มาสู่ธุรกิจและผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ”
เฟดเอ็กซ์จะเดินหน้าในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและช่วยเหลือลูกค้าทุกขนาดในประเทศจีนรวมถึงคว้าโอกาสในตลาดโลก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เฟดเอ็กซ์จับมือกับ Neolix เพื่อทดสอบรถขนส่งไร้คนขับในประเทศจีน บริษัทดังกล่าวยังได้ทดสอบหุ่นยนต์ SameDay Bot®, Roxo™ ของเฟดเอ็กซ์ในแถบภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) เพื่อค้นหาการขนส่งในอนาคตที่ไร้การสัมผัสจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการขนส่ง (last mile delivery) นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ยังเปิดตัวระบบเซนเซอร์บนอุปกรณ์สำหรับโลจิสติกซ์ อย่าง SenseAwareID ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความแม่นยำในการติดตามพัสดุสำคัญอย่างอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือเวชภัณฑ์