เดี๋ยวจะหาว่าเก่งแต่พ่นน้ำลายขู่รายวันสำหรับลูกพี่ใหญ่ความหวังของหมู่บ้าน“ม็อบรถบรรทุก”กับการต่อสู้เรื่องราคามันแพงหลังหายเงียบไประยะหนึ่ง ล่าสุด พวกเขามาแล้วหลังวันก่อน(21ม.ค.65)ได้มีการปรึกษาหารือของบรรดาท่านพญาหมื่นสิบล้อในสมาพันธ์ฯและ 10 สมาคมขนส่งฯทุกภูมิภาคพร้อมแนวร่วมเกี่ยวกับแนวทางการเคลื่อนพลเชิงสัญลักษณ์บุกกรุงสะท้อนถึงความเดือดร้อนต้นทุนภาคขนส่งจากปัญหาราคาน้ำมันแพงกระฉูดแตก พลางกดดันภาครัฐช่วยเร่งหามาตรการบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม
ทว่า การกลับหวนกลับมาบุกกรุงครั้งนี้ดูเหมือนดีกรีจะเข้มข้นดุดันและมีนัยสำคัญมากขึ้นหลังการเคลื่อนพล2ซีซั่นก่อนหน้านี้ไม่สามารถระคายผิวและเปิดต่อมรับรู้ภาครัฐได้ ซึ่งการศึกครั้งนี้เป็นการทุบหม้อข้าวแกงหมายมั่นปั้นมือเผด็จศึกให้จงได้ภายใต้สโลแกนสุดฮึกเหิม Truck Power Final Season หลังไล่บี้กับภาครัฐมาตั้งแต่กลางเดือนต.ค.64
ตามสาระสำคัญจากมติที่ประชุมประกาศให้วันที่ 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้พลพรรคสิบล้อจากทุกสมาคมฯจะเคลื่อนพลวิ่งผ่ากรุงบุกปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”สะท้อนถึงความเดือดร้อนภาคขนส่งหลัง 2 ครั้งการจัดกิจกรรมไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 25 บาทต่อลิตร ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้นอกเหนือจากการกดดันภาครัฐให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องแล้ว ขุนพลภาคขนส่งจะงัดหลักฐานเด็ดและข้อมูลทุจริตเกี่ยวกับการราคาน้ำมันแพงออกมาแฉต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนอีกด้วย
ต้องยอมรับว่าการเคลื่อนพลสิงห์รถบรรทุก 2 ครั้งก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการได้ขับเคลื่อนกิจกรรมให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายมีการเข้า-ออกใจกลางกรุงถูกต้องตามกรอบเวลาวิ่งของรถบรรทุกและคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่แม้อาจจะสร้างปัญหาการจราจรบ้างแต่ก็ไม่ได้ยืดเยื้อ
ทว่า การศึกเดิมพันครั้งสุดท้ายตามถ้อยวาจาที่ลั่นเอาไว้ Truck Power Final Season นี้ คงไม่ใช่แค่การเคลื่อนพลอย่างฮึกเหิมเพียงเพื่อมาเคาะประตูบ้านใหญ่พลังงานพร้อมกล่าวคำไว้อาลัย-วางพวงหรีดไว้เป็นที่ระลึกแล้วก็เดินจากไปอย่างเงียบๆแน่ๆ!
แต่นี้คือการประกาศปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”พื้นที่ไข่แดงภาครัฐในแง่การบริหารราชการแผ่นดินด้านพลังงานของชาติ ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการจะมีการปักหลักตั้งเวทีไฮด์ปาร์คงัดข้อมูลเด็ดขึ้นถล่ม-แฉการทุจริตราคาน้ำมันแพงอย่างที่จั่วหัวเรียกแขก หรือจะมีการเรียกร้องถึงขั้นปักหลักค้างคืนยืดเยื้อหรือไม่?อย่างไร?ต้องติดตามความเคลื่อนไหวในวันนั้นอีกครั้ง ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้เรียกร้องคงไม่หงายไพ่ใบสุดท้ายให้เห็นก่อนเป็นแน่แท้!
ซึ่งนั่นอาจจะเป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลในแง่การบังคับใช้กฎหมายหรือไม่?และหากมีการปักหลักยืดเยื้อแล้วล่ะก็ ผลกระทบด้านการจราจรเส้นวิภาวดีฯและรอบๆจากการ“ปิดกระทรวงพลังงาน”ด้วยคาราวานรถบรรทุก คิดเอาเองล่ะกันว่ามันจะวินาศสันตะโรขนาดไหน?
ทั้งนี้ การเคลื่อนพลปิดกระทรวงพลังงานประท้วงภาครัฐปมข้อเรียกร้องราคาพลังงานครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะทวนเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อ 15 ม.ค.2012 หรือย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง หรือม็อบรถบรรทุกก็เคยเคลื่อนพลปิดหน้าปตท.-กระทรวงพลังงานงัดข้อภาครัฐเกี่ยวกับราคาพลังงานนี้มาแล้วเช่นกัน
เรียกได้ว่าเป็นลมพัดหวนทับรอยประวัติศาสตร์ในแวดวงสิงห์รถบรรทุกเมืองไทยกับการเคลื่อนทัพพุ่งชน“เป้าหมาย”เดียวกัน แต่ต่างกันเฉพาะเรื่อง“กาลเวลา”เป็นวังวนปัญหาซ้ำซากที่แม้จะผ่านมาครบ 1 ทศวรรษแล้ววงจรอัปยศเรื่องราคาพลังงานไม่เป็นธรรมก็ยังกลับมาหลอนภาคขนส่งอีกครั้ง
ต้องตามลุ้นแหล่ะว่าการเคลื่อนพลม็อบรถบรรทุกกดดันภาครัฐด้วยการปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”ครั้งนี้จะสามารถสะกิดต่อมรับรู้พลางสร้างแรงกระเพื่อมให้รัฐบาลยอมรับข้อเรียกร้อง หรือเปิดโต๊ะเจรจาหาข้อตกลงร่วมที่ยอมรับกันได้ทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่? หรือจะเป็นแค่…ลมพัดผ่านหูภาครัฐ(อีกครั้ง)เท่านั้น?
ต้องตามลุ้นกัน 8 ก.พ.นี้ม็อบรถบรรทุกกับการศึกครั้งสุดท้ายนี้!จะสามารถเผด็จศึกได้หรือไม่?หรือจะสมค่าสมราคาคุยไว้หรือไม่???ปูเสื่อรอโลดพี่น้อง!