BEST Express เติบโตก้าวเข้าสู่ปี 4 อย่างแข็งแกร่ง กับปีแห่งการคว้า 3 รางวัล “สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์แห่งปี 2564” พัฒนาเทคโนโลยีการบริการอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และพร้อมเดินหน้าตอบแทนสังคมกับโครงการ “BESTปันสุขเพื่อสังคม” อย่างต่อเนื่อง
นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตขึ้นในทุกด้าน ทั้ง ยอดพัสดุที่เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด การขยาย HUB หรือศูนย์กระจายสินค้าที่ตอนนี้มีรวม 5 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาบริการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น เช่น บริการ BEST Tracking Alert (แจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติ ผ่าน LINE Official Account), การขยาย Auto Sorting โดยนำเครื่องช่วยคัดแยกพัสดุอัตโนมัติมาใช้ใน HUB เป็นต้น รวมถึงการร่วมมือกับ BG LINK เปิดบริการ BEST Cross Border ส่งพัสดุข้ามประเทศ ไทย-มาเลเซีย-จีน และร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชรายใหญ่จากจีน เปิดบริการขนส่งสินค้ารวมเที่ยว และขนส่งพัสดุจากจีนถึงไทยภายใน 7 – 10 วัน อีกด้วย
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา BEST Express ได้เปิดตัวบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยล่าสุดบริการ “BEST Tracking Alert” บริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติผ่าน LINE Official Account เป็นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะพัสดุอัตโนมัติได้แบบ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งบริการนี้ส่งผลให้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารางวัล “สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2564 (Product Innovation Awards 2021)” จากทางนิตยสาร BUSINESS+, รางวัล “หนึ่งในสิบธุรกิจแฟรนไชส์แห่งปี 2021 สาขารางวัลประเภทที่ 3 แฟรนไชส์ยอดเยี่ยมโดดเด่นเฉพาะด้านประเภทรางวัล BEST INNOVATION FRANCHISE” จาก Thailand Franchise Award 2021 : TFA 2021 และรางวัล “THAILAND TOP SME AWARDS” สาขา นวัตกรรมด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แห่งปี ซึ่งนับเป็น 3 รางวัลการันตีความสำเร็จแห่งปีของ BEST Express ที่ให้บริการด้วยนวัตกรรมแก่ลูกค้าทั่วไทยท่ามกลางโลกยุคดิจิทัลและวิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal)”
นายเจสัน ระบุอีกว่านอกจากนี้ BEST Express ยังได้เดินหน้าขยายเครือข่ายการส่งพัสดุข้ามประเทศ Cross Border อย่างเต็มรูปแบบ จากไทยไปมาเลเซีย จีน และที่เพิ่มมาใหม่ คือ กัมพูชา เวียดนาม ลาว และครอบคลุมทั่วอาเซียน ยุโยป อเมริกาในอนาคต โดยร่วมมือกับ BG LINK (บริษัท บีจี ลิ้งค์ จำกัด) ผู้ให้บริการส่งพัสดุข้ามประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce และช่วยเปิดโอกาสในการทำธุรกิจให้ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงรองรับผู้ประกอบการธุรกิจแบบ B2B ด้วยบริการ BEST Big Parcel ที่ให้บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ได้สูงสุด 100 กิโลกรัม เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่จับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการส่งพัสดุขนาดใหญ่มากขึ้น
“เนื่องจาก BEST Express เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ 100% ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งพัสดุในแต่ละพื้นที่โดยคนท้องถิ่น ทำให้มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายจากเจ้าของแฟรนไชส์แต่ละจังหวัด เช่น การทำธุรกิจเชิงรุกของแฟรนไชส์ในสาขาต่าง ๆ การริเริ่มนำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามาใช้ขนส่งพัสดุเป็นเจ้าแรกในสาขาชลบุรี และการริเริ่มโครงการ “BESTปันสุขเพื่อสังคม” ที่แฟรนไชส์สาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันตอบแทนสังคมด้วยการแบ่งปันสิ่งของบริจาคและช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ การช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสและผู้พิการ บริจาคเครื่องมือแพทย์และสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ป่วยโควิดให้กับหน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงมูลนิธิและองค์กรเอกชน ซึ่งทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2564”
นายเจสัน สรุปปิดท้ายว่าด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาทั้งคุณภาพและการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ปี 2564 เป็นปีที่ BEST Express เติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีความมั่นคง ไม่ใช่เพียงผู้เล่นในตลาดโลจิสติกส์ไทยอีกต่อไป แต่มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยแผนการเชื่อมเครือข่ายขนส่งพัสดุด่วนทั่วอาเซียน ที่มาพร้อมความสะดวกสบายส่งพัสดุด่วนง่ายแบบไร้พรมแดน