“ศักดิ์สยาม”เร่งยกมาตรฐานท่าเรือสำราญ ฟื้นฟู 10 หาด มัดใจ นทท.กระเป๋าหนัก

0
69

“ศักดิ์สยาม”เร่งยกระดับมาตรฐานท่าเรือสำราญ ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย -อันดามัน จ่อเปิด PPP หลังนักลงทุนไทย-ต่างชาติสนใจจำนวนมาก พร้อมเดินหน้าพัฒนาและฟื้นฟู 10 ชายหาดทราย ระยะทางกว่า 42 กม.เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้ และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลและสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า (จท.) ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมเจ้าท่า เร่งพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างประเทศของไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีหลายพื้นที่ที่มีความเหมาะสมที่จะเปิดเป็นถ้าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ เช่นที่ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนฝั่งทะเลอันดามันบอกว่ามีที่พื้นที่เหมาะสมจำนวน 5 แห่ง ซึ่งขณะนี้ได้รับความสนใจและมีเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข่น นักลงทุนจากประเทศเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลีและจีน สอบถามเข้ามาจำนวนมาก ส่วนรูปแบบในการลงทุนพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่นั้นจะเป็นรูปแบบ การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership หรือ PPP)

มั่นใจว่าหากมีการลงทุนจะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังจ่ายสูง เนื่องด้วยประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามันรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร พร้อมทั้งทรัพยากรเกาะแก่ง แหล่งท่องเที่ยว และเมืองริมชายฝั่งที่มีความสวยงาม มีชื่อเสียง ท่าเรือมารีน่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีกำลังจ่ายสูง ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดและกระจุกตัวอยู่ทางด้านบริเวณชายฝั่งอันดามัน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จท. ได้จัดทำแผนการพัฒนาชายฝั่งทะเล ด้านการเสริมทรายชายหาด (Beach Nourishment) เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ ฟื้นฟูพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง จท. ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเสริมทรายฟื้นฟูชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือ บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ถึงชายหาดพัทยาใต้ บริเวณวอล์คกิ้ง สตรีท แล้วเสร็จในปี 62 จึงเป็นต้นแบบขยายโครงการต่อเนื่องไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ระยะทาง 3.6 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 65 รวมทั้งมีแผนงานเสริมทรายชายหาดท่องเที่ยวในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น ชายหาดบางแสน ชายหาดสมิหลา ชายหาดชะอำ ชายหาดเขาหลัก ชายหาดบางเสร่ ชายหาดอ่าวดงตาล ชายหาดแสงจันทร์ ชายหาดปราณบุรี และชายหาดทรายรี เป็นต้น โดยใช้งบประมาณ 5,400 ล้านบาท ระยะทางรวมประมาณ 42 กิโลเมตร ซึ่งการเสริมทรายชายหาดนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายหาดอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยส่งเสริม สนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศอีกด้วย