“ศักดิ์สยาม”เร่งแผน MR-Map 10 เส้นทาง/โครงข่าย MR2 เชื่อมเส้นทางรถไฟลาว-จีน

0
101

“ศักดิ์สยาม”เผยแผนโครงข่ายทางหลวงพิเศษ MR–Map หลังทางหลวงศึกษาแล้วเสร็จ 10 เส้นทาง พร้อมกำชับให้สร้างความเข้าใจสาธารณชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เน้นลากเส้นทาง MR2 เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟลาว-จีน ส่วนเส้นทาง “ชุมพร-ระนอง”ให้สั้นที่สุด หนุนโครงการแลนด์บริดจ์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความก้าวหน้าผลการดำเนินงานศึกษาจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR–Map) ของกรมทางหลวง (ทล.)ว่า ปัจจุบัน ทล.ได้จัดทำร่างแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) แล้วเสร็จ 10 เส้นทาง รวมระยะทางประมาณ 6,980 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางที่พัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์ร่วมกับระบบรางมีระยะทางทั้งหมด 4,760 กิโลเมตร แบ่งเป็นแนวเหนือ-ใต้ 3 เส้นทาง แนวตะวันออก-ตะวันตก 6 เส้นทาง และแนวเส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1 เส้นทาง ซึ่งตนได้มีข้อสั่งการให้ ทล.จัดทำแผนการขับเคลื่อนโครงการและ Action Plan ให้ชัดเจน เพื่อให้สาธารณชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ได้รับทราบข้อมูลและแผนการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมในด้านต่างๆ อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังได้กำชับประเด็นการเชื่อมโยงกับ สปป.ลาวผ่านทางจังหวัดหนองคายตามเส้นทาง MR2 โดยให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เร่งพัฒนาโครงการรถไฟช่วงขอนแก่น-หนองคายให้สามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟลาว-จีนได้อย่างต่อเนื่อง และเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงให้พิจารณาเส้นทาง MR8 (ชุมพร-ระนอง) เพื่อสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ให้มีเส้นทางที่สั้นที่สุดโดยพิจารณาแนวทางที่เป็นไปได้ เช่น การพิจารณาเทคนิคทางวิศวกรรม เพื่อลดข้อจำกัดด้านกายภาพในการก่อสร้างท่าเรือ พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียในทางเลือกต่าง ๆ และในประเด็นการพัฒนาแผนแม่บท MR-Map ขอให้พิจารณากฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นกับโครงการต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้ให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) พิจารณาการพัฒนาจุดพักรถให้มีรูปแบบเป็นอาคารคร่อมบนทางพิเศษเพื่อลดปัญหาการใช้พื้นที่ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางทั้ง 2 ทิศทาง รวมถึงการใช้ระบบด่านเก็บค่าผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น เพื่อลดปัญหาการติดขัดหน้าด่าน และพิจารณาแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) และแผนการลงทุนภายใต้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFF เพื่อลดภาระในการใช้งบประมาณของภาครัฐ รวมถึงให้พิจารณาการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการพัฒนาโครงการทางพิเศษตามแผน MR-Map เช่น ปัญหาที่จะเกิดขึ้นบริเวณจุดตัดบางปะอินในอนาคต เป็นต้น โดยเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map)จำนวน 10 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทาง MR1 เชียงราย-นราธิวาส ระยะทาง 2,125 กิโลเมตร 2.เส้นทาง MR2 กรุงเทพฯ/ชลบุรี (แหลมฉบัง)-หนองคาย (ด่านหนองคาย) ระยะทาง 886 กิโลเมตร โดยเป็นมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 196 กิโลเมตร และเส้นทางในแผนอนาคต 690 กิโลเมตร 3.เส้นทาง MR3 บึงกาฬ (ด่านบึงกาฬ)-สุรินทร์ (ด่านช่องจอม) ระยะทาง 470 กิโลเมตร 4.เส้นทาง MR4 ตาก (ด่านแม่สอด)-นครพนม (ด่านนครพนม) ระยะทาง 840 กิโลเมตร 5.เส้นทาง MR5 กาญจนบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์)-อุบลราชธานี (สะพานมิตรภาพแห่งที่ 6) ระยะทาง 832 กิโลเมตร

ส่วนเส้นที่ 6 เส้นทาง MR6 กาญจนบุรี (ด่านพุน้ำร้อน)-สระแก้ว (ด่านอรัญประเทศ) ระยะทาง 390 กิโลเมตร โดยเป็นเส้นทางมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 96 กิโลเมตร และเส้นทางในแผนอนาคต 294 กิโลเมตร 7.เส้นทาง MR7 กรุงเทพฯ-ระยอง (มาบตาพุด)/ตราด (ด่านคลองใหญ่) ระยะทาง 467 กิโลเมตร โดยเป็นมอเตอร์เวย์ สายกรุงเทพฯ-พัทยา-มาบตาพุด ที่เปิดให้บริการแล้ว 181 กิโลเมตร และเส้นทางในแผนอนาคต 286 กิโลเมตร

8.เส้นทาง MR8 ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 94 กิโลเมตร 9.เส้นทาง MR9 สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต ระยะทาง 185 กิโลเมตร และ 10. เส้นทาง MR10 เชื่อมต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะทาง 648 กิโลเมตร:7j’0tแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 2 (ถนนกาญจนาภิเษก) เปิดให้บริการแล้ว 168 กิโลเมตร ส่วนที่ 2 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 (แผนในอนาคต) 455 กิโลเมตร และส่วนที่ 3 เส้นทางเชื่อมต่อวงแหวนรอบ ที่ 2 และ 3 ได้แก่ ช่วงบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 25 กิโลเมตร) ช่วงบ้านแพ้ว-ปากท่อ 54 กิโลเมตร และ ช่วงบางปะอิน-สุพรรณบุรี 55 กิโลเมตร