กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยญี่ปุ่นเตรียมอนุญาตให้นำเข้าส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจากไทยเพิ่มเติม คาดมีผลบังคับใช้ปี 65 ส่วนเกาหลีใต้เตรียมลดภาษีนำเข้าทุเรียนและมังคุดเหลือ 0% ใน 10 ปี หลัง RCEP บังคับใช้ พร้อมจัดเจรจาจับคู่ออนไลน์ทั่วโลก 16-17 ธ.ค.นี้ เพิ่มโอกาสส่งออกผลไม้ เน้นย้ำการรักษาคุณภาพสินค้าผลไม้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงผลการจัดสัมมนา “สินค้าผลไม้ไทยบุกตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้” ผ่านทางระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรสินค้าผลไม้ไทยเข้าใจการส่งออกสินค้าผลไม้ไปยังตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับผลไม้พรีเมี่ยมของไทย โดยได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 ราย และในการสัมมนาครั้งนี้ได้รับข่าวดีจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ว่าญี่ปุ่นจะอนุญาตให้นำเข้าส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจากไทยเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามเร่งรัดกระทรวงเกษตรญี่ปุ่นในขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าจะมีผลในปี 2565 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นผลดีต่อส้มโอของไทยที่จะเปิดตลาดญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล ได้ให้ข้อมูลและโอกาสในการส่งออกผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ โดยเกาหลีใต้จะลดภาษีนำเข้าทุเรียนและมังคุดลงเหลือ 0% ภายในระยะเวลา 10 ปี หลังจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะเป็นโอกาสดีของไทยที่จะส่งออกทุเรียนและมังคุดเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้
นอกจากนี้ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าของผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศ กรมฯ มีแผนที่จะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้สดและแปรรูปผ่านทางระบบออนไลน์ (Online Business Matching : OBM) กำหนดไว้วันที่ 16-17 ธันวาคม 2564 โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ และเกษตรกร ที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564
สำหรับสินค้าผลไม้ เป็นสินค้าเป้าหมายในการส่งออกและทำรายได้ให้กับประเทศอีกตัวหนึ่ง โดยในช่วง9 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 161,256.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.28% โดยตั้งเป้าหมายส่งออกผลไม้ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% โดยตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักของผลไม้พรีเมี่ยมของไทย มียอดส่งออกรวมกันถึง 1,812.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.09% โดยผลไม้ยอดนิยม คือ มะม่วง กล้วย ทุเรียน และมังคุด
ส่วนแผนผลักดันการส่งออกผลไม้ในปี 2565 ที่กรมฯ จะดำเนินการตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีดังนี้ 1.กิจกรรมเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้ทางระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Online Business Matching (OBM) 2.การจัดงานส่งเสริมการบริโภคผลไม้ระดับนานาชาติในรูปแบบ Hybrid เช่น งาน THAIFEX – ANUGA Asia 3.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยร่วมกับห้างสรรพสินค้าและในตลาดสำคัญในต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า In Store Promotion 4.การจัดกิจกรรม Thai Fruits Golden Months ในประเทศต่าง ๆ และ 5.การจัดกิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มสำคัญ ๆ ระดับโลก เช่น Rakuten และ Yahoo ในญี่ปุ่น Coupang, SSG, Naver, Interpark, Gmarket และ 11st (11STREET) ในเกาหลีใต้ Bigbasket ของอินเดีย และ Tmall ของจีน เป็นต้น
ผู้สนใจเข้าร่วมการเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้สดและแปรรูปทางระบบออนไลน์ในวันที่ 16-17 ธันวาคม 2564 สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง E-mail: foods@ditp.go.th หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1169 และสามารถรับฟังการสัมมนาย้อนหลังได้ทาง facebook : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ DITP